เทคนิคการใช้น้ำเสียงและภาษากาย: เคล็ดลับที่ทุกคนสามารถฝึกได้ภายใน 5 นาที

โพสต์เมื่อ February 27, 2024

Wellbeing

แท็ก:

การพูด
ภาษากาย
น้ำเสียง
เทคนิคการพูด
การพูดในที่สาธารณะ
Body Language
เทคนิคการพูดที่ดี

ในทุกยุคทุกสมัย การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ทั้งในเชิงธุรกิจและส่วนตัว การเรียนรู้เทคนิคการใช้น้ำเสียงและภาษากายจึงเป็นศาสตร์ที่นักธุรกิจ ผู้นำองค์กรให้ความสำคัญ ขณะที่หลายคนมักมองข้ามสิ่งเหล่านี้และมุ่งเน้นไปที่การพูดเนื้อหาที่สำคัญ แต่กลับลืมไปว่าการใช้น้ำเสียงและภาษากายเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบมากกว่าที่คิด ก่อนจะมีภาษาพูดเราสื่อสารกันด้วยเสียงและท่าทางภาษากาย


โดยจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้แสดงให้เห็นว่าภาษากายและวิธีการใช้มือมีผลถึง 55% และ 38% ของการสื่อสารตามลำดับ ขณะที่เนื้อหามีผลเพียงแค่ 7% เท่านั้น


ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เทคนิคการใช้น้ำเสียงและภาษากายจากครูกรีน AF7 ที่สามารถฝึกได้ง่ายภายใน 5 นาที ซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่มพลังในการสื่อสารและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ


การใช้น้ำเสียงเพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ


การใช้น้ำเสียงที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและความสนใจจากผู้ฟัง การเปลี่ยนแปลงน้ำเสียงในเวลาที่เหมาะสมสามารถทำให้เรื่องที่เรากำลังเล่าดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


Booming 📢 (การใช้น้ำเสียงพุ่งไปข้างหน้า):

การใช้น้ำเสียงแบบ Booming จะช่วยในการดึงความสนใจจากผู้ฟัง โดยการเปล่งเสียงอย่างชัดเจนและมีพลัง คุณสามารถฝึกเทคนิคนี้ได้โดยการตั้งมือขึ้นมาและสะบัดออกไปข้างหน้า ขณะนั้นให้พูดคำว่า "สวัสดีครับ" ด้วยน้ำเสียงที่แข็งแรงและมั่นคง ซึ่งจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกตื่นเต้นและพร้อมที่จะรับฟัง


Rounded 🌐 (การใช้น้ำเสียงโอบโค้ง):

น้ำเสียงแบบ Rounded จะช่วยเพิ่มมิติและความหนักแน่นในคำพูดของคุณ วิธีฝึกคือการตั้งแขนขึ้นมาให้คล้ายรูปวงกลม และกวักมือทั้งสองข้างเข้าหาตัวเอง ในขณะที่พูดคำว่า "อ๋อ" ด้วยน้ำเสียงที่ต่ำลง การใช้น้ำเสียงนี้จะทำให้คำพูดของคุณดูสุขุมและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น


Operatic 🎶 (การใช้น้ำเสียงสว่างและก้องกังวาล):

เทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความสดใสในน้ำเสียงของคุณ การฝึกทำได้โดยการตั้งแขนขึ้นมาแล้วสะบัดมือขึ้นไปข้างบน ขณะนั้นพูดคำว่า "วู้ว" และตามด้วย "สวัสดีครับ" โดยเน้นน้ำเสียงที่คำสุดท้าย เช่นคำว่า "ครับ" การเน้นเสียงที่ท้ายประโยคจะช่วยให้คำพูดของคุณดูมีพลังและความสดใสมากขึ้น


Whispering 🤫 (การใช้น้ำเสียงกระซิบ):

การใช้น้ำเสียงกระซิบจะช่วยให้การสื่อสารของคุณดูนุ่มนวลและอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ฝึกได้โดยการจินตนาการว่าคุณกำลังถือลูกแก้วอยู่สองมือ และพูดกระซิบกับลูกแก้วเบา ๆ คำว่า "อืม" ก่อนจะตามด้วย "สวัสดีครับ" ซึ่งจะช่วยให้น้ำเสียงของคุณดูละมุนและเป็นมิตรกับผู้ฟังมากขึ้น


การใช้ภาษากายเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ

ภาษากายมีบทบาทสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกและส่งเสริมความน่าเชื่อถือในการสื่อสาร เทคนิคเหล่านี้สามารถฝึกได้ง่าย ๆ ภายใน 5 นาที


1. สูบลมเข้าบอลลูน 🎈 (การหายใจเพื่อสร้างความมั่นใจ):

เทคนิคนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในสถานการณ์ที่คุณต้องเผชิญหน้ากับผู้อื่น ฝึกโดยการจินตนาการว่าตัวคุณเป็นลูกโป่ง การหายใจเข้าทางปากลึก ๆ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนตัวเองตัวใหญ่ขึ้น ช่วยให้คุณไม่รู้สึกถูกกดดันเมื่อต้องสื่อสารกับผู้อื่น


2. การจัด Center & Balance ⚖️ (การสร้างสมดุลให้กับร่างกาย):

การยืนอย่างมีสมดุลและมั่นคงจะช่วยให้คุณสามารถพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ ได้อย่างมั่นใจ วิธีการคือการยืนโดยยึดเซนเตอร์ของร่างกาย และนำมือมาไว้กลางลำตัวเพื่อถ่วงสมดุล การเคลื่อนไหวมือสามารถดึงโฟกัสของผู้ฟังและช่วยให้พวกเขาตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณกำลังพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ตัวอย่างการเลือกใช้เทคนิคน้ำเสียงในสถานการณ์ต่าง ๆ

ในแต่ละสถานการณ์ คุณสามารถใช้และให้น้ำเทคนิคต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสาร ดังนี้:


1.การใช้น้ำเสียงเพื่อการเจรจาต่อรองที่มีประสิทธิภาพ


Tactic: Rounded (การใช้น้ำเสียงโอบโค้ง):


  • การใช้น้ำเสียงที่มีมิติและความหนักแน่นจะช่วยให้คุณดูมั่นคงและมีความน่าเชื่อถือในสถานการณ์ที่ต้องเจรจาต่อรอง เช่น การต่อรองเรื่องสำคัญในที่ทำงาน โดยใช้เสียงต่ำและเน้นคำพูดสำคัญ จะช่วยสร้างความไว้วางใจจากคู่เจรจา


2. การใช้ภาษากายเพื่อสร้างความประทับใจแรก


Tactic: Booming (การใช้น้ำเสียงพุ่งไปข้างหน้า):

  • การทักทายด้วยน้ำเสียงที่พุ่งไปข้างหน้าและมีพลังช่วยให้คุณสร้างความประทับใจแรกที่ดีในทุก ๆ สถานการณ์ เช่น ในการประชุมหรือการสัมภาษณ์งาน การพูดด้วยน้ำเสียงดัง ชัดเจน พร้อมสบัดมือไปข้างหน้า เช่น การพูดว่า "สวัสดีครับ" 👋 จะทำให้ผู้ฟังรู้สึกถึงความมั่นใจและพลังงานเชิงบวกจากคุณ


3. การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพในทีม


Tactic: Operatic (การใช้น้ำเสียงสว่างและก้องกังวาล):

  • ในการประชุมทีม หรือการทำงานร่วมกัน การใช้น้ำเสียงที่สดใสและก้องกังวาลช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและส่งเสริมความร่วมมือ การพูดด้วยน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวาและเน้นเสียงในคำสำคัญจะช่วยกระตุ้นความสนใจจากสมาชิกทีมได้เป็นอย่างดี


4. การใช้น้ำเสียงเพื่อการนำเสนอที่น่าสนใจ


Tactic: Booming และ Operatic

  • ในการนำเสนอ การเริ่มต้นด้วยน้ำเสียง Booming ที่แข็งแรงและชัดเจนช่วยดึงความสนใจจากผู้ฟัง จากนั้นสลับไปใช้น้ำเสียง Operatic เพื่อเพิ่มความสดใสและสร้างความสนุกสนานในการฟัง


การเปลี่ยนแปลงน้ำเสียงในระหว่างการพูดจะช่วยให้การนำเสนอของคุณดูไม่น่าเบื่อและน่าสนใจมากขึ้น ✨


5. การสื่อสารในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญความขัดแย้งหรือต้องการการใช้เหตุผล


Tactic: Whispering (การใช้น้ำเสียงกระซิบ):


  • เมื่อเผชิญความขัดแย้ง การใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลและเบา เช่น Whispering ช่วยลดความตึงเครียดและทำให้การสื่อสารดูสุภาพและอ่อนโยน การพูดเบา ๆ และช้า ๆ เช่นการพูดว่า "เรามาพูดคุยกันเถอะ" 🤝 จะช่วยให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดคลี่คลายลงได้ง่ายขึ้น


บทสรุป

การฝึกใช้น้ำเสียงและภาษากายไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณให้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มพลังในการสื่อสารและสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการควบคุมน้ำเสียงและภาษากายจะทำให้คุณสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้านของชีวิต



อาชีพที่เกี่ยวข้อง

ที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยในเอเชีย พักจากการทำงาน เที่ยวส่งท้ายปีแบบชาร์จพลัง
WELLBEING
ที่เที่ยวต่างประเทศใกล้ไทยในเอเชีย พักจากการทำงาน เที่ยวส่งท้ายปีแบบชาร์จพลัง
มื้อกลางวันกินอะไรดี?  คู่มือ 5-Minute Offix สำหรับชาวออฟฟิศ
WELLBEING
มื้อกลางวันกินอะไรดี? คู่มือ 5-Minute Offix สำหรับชาวออฟฟิศ
เลขประจําตัวผู้เสียภาษี ดูจากไหน? รู้ไว้ใช้ได้หลายเรื่องกว่าที่คิด
WELLBEING
เลขประจําตัวผู้เสียภาษี ดูจากไหน? รู้ไว้ใช้ได้หลายเรื่องกว่าที่คิด
รวมประโยคสุดคิ้วท์ อวยพรเพื่อนร่วมงาน ฉบับภาษาอังกฤษ
WELLBEING
รวมประโยคสุดคิ้วท์ อวยพรเพื่อนร่วมงาน ฉบับภาษาอังกฤษ
ยื่นประกันสังคมออนไลน์ง่ายนิดเดียว! ใช้เพื่ออะไร และทำอย่างไรบ้าง
WELLBEING
ยื่นประกันสังคมออนไลน์ง่ายนิดเดียว! ใช้เพื่ออะไร และทำอย่างไรบ้าง
ไขข้อสงสัยในการยื่นใบลาออก ต้องทำภายในกี่วัน และทำอย่างไรบ้าง พร้อมตัวอย่างการเขียน
WELLBEING
ไขข้อสงสัยในการยื่นใบลาออก ต้องทำภายในกี่วัน และทำอย่างไรบ้าง พร้อมตัวอย่างการเขียน
เมื่อ "การยึดติด" กลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งคุณไว้: มุมมองใหม่ต่อการเรียนรู้และการทำงาน
WELLBEING
เมื่อ "การยึดติด" กลายเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งคุณไว้: มุมมองใหม่ต่อการเรียนรู้และการทำงาน
ทำงานหนักกว่าเดิม แต่ทำไมกลับ 'ไม่มั่นคงกว่าเดิม'? เปิดแผนที่สู่เส้นชัยทางการเงินและชีวิตที่ดีกว่า ที่ Work Life Festival 2025
WELLBEING
ทำงานหนักกว่าเดิม แต่ทำไมกลับ 'ไม่มั่นคงกว่าเดิม'? เปิดแผนที่สู่เส้นชัยทางการเงินและชีวิตที่ดีกว่า ที่ Work Life Festival 2025
จิตแพทย์ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด! ควรรู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตในวัยทำงาน
WELLBEING
จิตแพทย์ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด! ควรรู้ไว้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจิตในวัยทำงาน
“ทำงานก็แฮปปี้ ใช้ชีวิตก็แฮปปี้” เจาะลึก Work-life Balance ที่คนทำงานยุคใหม่ต้องรู้เเละ 5 บริษัทที่ใส่ใจ Work-life Balance แบบสุด ๆ
WELLBEING
“ทำงานก็แฮปปี้ ใช้ชีวิตก็แฮปปี้” เจาะลึก Work-life Balance ที่คนทำงานยุคใหม่ต้องรู้เเละ 5 บริษัทที่ใส่ใจ Work-life Balance แบบสุด ๆ