เรียนต่ออะไรดี? รวม 10 สาขาน่าเรียน ไม่ตกงาน ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ทำไมต้องเรียนต่อ? ในยุคที่ตลาดแรงงานมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเรียนต่อเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและยกระดับอาชีพของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท การศึกษาต่อสามารถช่วยให้เราได้รับทักษะเฉพาะทางและสร้างความได้เปรียบในการทำงาน นอกจากนี้ การเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ ๆ สร้างคอนเนคชั่นในอุตสาหกรรมและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ อีกด้วย เรียนต่อต่างประเทศ เรียนตรีหรือโทดี? ปริญญาตรี: เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานของสาขาวิชาต่าง ๆ และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับอาชีพในอนาคต ปริญญาโท: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะทาง และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้เชิงลึก รวมถึงเปิดโอกาสในสายอาชีพที่มีตำแหน่งสูงขึ้นหรือเงินเดือนที่ดีกว่า 10 สาขาน่าเรียนทั้งในไทยและต่างประเทศ 1. Data Science & Artificial Intelligence (AI) มหาวิทยาลัยแนะนำ: Stanford University (สหรัฐอเมริกา), University of Oxford (สหราชอาณาจักร), National University of Singapore (สิงคโปร์) ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 50,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Data Scientist, Machine Learning Engineer, AI Researcher เงินเดือนเฉลี่ย: 70,000 - 150,000 USD ต่อปี 2. Cybersecurity มหาวิทยาลัยแนะนำ: Carnegie Mellon University (สหรัฐอเมริกา), ETH Zurich (สวิตเซอร์แลนด์) ค่าเทอมโดยประมาณ: 25,000 - 45,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Cybersecurity Analyst, Ethical Hacker, Security Consultant เงินเดือนเฉลี่ย: 80,000 - 140,000 USD ต่อปี 3. Biomedical Engineering มหาวิทยาลัยแนะนำ: Johns Hopkins University (สหรัฐอเมริกา), Imperial College London (สหราชอาณาจักร) ค่าเทอมโดยประมาณ: 30,000 - 55,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Biomedical Engineer, Medical Device Developer เงินเดือนเฉลี่ย: 60,000 - 120,000 USD ต่อปี 4. Digital Marketing มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of Melbourne (ออสเตรเลีย), ESSEC Business School (ฝรั่งเศส) ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 40,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Digital Marketing Manager, SEO Specialist, Social Media/ Digital Strategist เงินเดือนเฉลี่ย: 50,000 - 100,000 USD ต่อปี 5. Sustainable Energy Engineering มหาวิทยาลัยแนะนำ: Technical University of Denmark (เดนมาร์ก), TU Delft (เนเธอร์แลนด์) ค่าเทอมโดยประมาณ: 15,000 - 35,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Renewable Energy Consultant, Environmental Engineer เงินเดือนเฉลี่ย: 70,000 - 130,000 USD ต่อปี 6. Business Administration (MBA) มหาวิทยาลัยแนะนำ: Harvard Business School (สหรัฐอเมริกา), Stanford Graduate School of Business ค่าเทอมโดยประมาณ: 50,000 - 80,000 USD ต่อปี อาชีพที่สามารถประกอบได้: Business Consultant, Investment Banker, CEO เงินเดือนเฉลี่ย: 100,000 - 200,000 USD ต่อปี 7. Computer Science มหาวิทยาลัยแนะนำ: Massachusetts Institute of Technology (MIT) (สหรัฐอเมริกา), University of Cambridge (สหราชอาณาจักร) ค่าเทอมโดยประมาณ: 30,000 - 60,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Software Engineer, Systems Architect เงินเดือนเฉลี่ย: 80,000 - 150,000 USD ต่อปี 8. Architecture มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of California, Berkeley (สหรัฐอเมริกา), ETH Zurich (สวิตเซอร์แลนด์) ค่าเทอมโดยประมาณ: 25,000 - 50,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Architect, Urban Planner เงินเดือนเฉลี่ย: 50,000 - 120,000 USD ต่อปี 9. International Relations มหาวิทยาลัยแนะนำ: London School of Economics (สหราชอาณาจักร), Sciences Po (ฝรั่งเศส) ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 45,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Diplomat, Policy Analyst เงินเดือนเฉลี่ย: 60,000 - 110,000 USD ต่อปี 10. Environmental Science มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of British Columbia (แคนาดา), Australian National University (ออสเตรเลีย) ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 40,000 USD ต่อปี ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Environmental Consultant, Sustainability Manager เงินเดือนเฉลี่ย: 55,000 - 100,000 USD ต่อปี เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้อะไรบ้าง? 1.วุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้อง: เช่น ใบปริญญาตรีสำหรับเรียนต่อโท หรือวุฒิมัธยมศึกษาสำหรับปริญญาตรี 2.ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ: เช่น IELTS, TOEFL หรือภาษาท้องถิ่นของประเทศที่ต้องการไปเรียน 3.จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation): จากอาจารย์หรือผู้ที่เคยทำงานร่วมกัน 4.Statement of Purpose (SOP) หรือ Personal Statement: บรรยายเหตุผลที่ต้องการเรียนต่อในสาขานั้น ๆ 5.Portfolio (ถ้ามี): สำหรับสายงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ สถาปัตยกรรม หรือสาขาที่ต้องใช้ผลงานประกอบการสมัคร 6.ผลสอบมาตรฐานอื่น ๆ (ถ้าจำเป็น): เช่น GMAT, GRE สำหรับหลักสูตรธุรกิจหรือวิทยาศาสตร์บางสาขา 7.เอกสารทางการเงิน: หลักฐานแสดงความสามารถทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองบัญชีธนาคาร เพื่อขอวีซ่านักเรียน 8.วีซ่านักเรียน: ต้องตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละประเทศ 9.ประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ: บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ต้องมีประกันสุขภาพ เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้เงินเท่าไหร่? ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อต่างประเทศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่เลือก มหาวิทยาลัย สาขาวิชา และค่าครองชีพในเมืองที่อยู่ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ได้แก่: 1. ค่าเล่าเรียน สหรัฐอเมริกา: $20,000 - $80,000 ต่อปี (ประมาณ 590,000-2,690,000 บาท) สหราชอาณาจักร: £10,000 - £40,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,700,000 บาท) ออสเตรเลีย: AUD 20,000 - AUD 50,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,070,000 บาท) แคนาดา: CAD 15,000 - CAD 40,000 ต่อปี (ประมาณ 355,000- 949,000 บาท) ยุโรป (เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์): บางประเทศมีค่าเล่าเรียนต่ำหรือไม่มีเลย (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย) 2. ค่าครองชีพ สหรัฐอเมริกา: $1,000 - $2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 33,000-84,000 บาท) สหราชอาณาจักร: £800 - £2,000 ต่อเดือน (ประมาณ 34,000-85,000 บาท) ออสเตรเลีย: AUD 1,200 - AUD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 25,000-53,000 บาท) แคนาดา: CAD 1,000 - CAD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 23,000-59,000 บาท) ยุโรป: €600 - €1,500 ต่อเดือน (ประมาณ 21,000-52,000 บาท) 3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน: $500 - $2,000 ต่อปี ค่าประกันสุขภาพ: $500 - $2,000 ต่อปี ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินไปกลับ): $800 - $2,500 ขึ้นอยู่กับระยะทาง รวมค่าใช้จ่ายต่อปี: โดยเฉลี่ยแล้ว นักศึกษาต่างชาติอาจต้องใช้เงินประมาณ $30,000 - $100,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเทศและมหาวิทยาลัยที่เลือก ทุนการศึกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ หากต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถสมัครทุนการศึกษาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น: ทุนรัฐบาล เช่น Fulbright (สหรัฐอเมริกา), Chevening (สหราชอาณาจักร), DAAD (เยอรมนี) ทุนมหาวิทยาลัย เช่น Gates Cambridge Scholarship, Australia Awards ทุนจากองค์กรเอกชนและมูลนิธิต่าง ๆ การวางแผนค่าใช้จ่ายและมองหาทุนการศึกษาเป็นวิธีที่ช่วยให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นไปได้ง่ายขึ้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ 10 สาขาน่าเรียนต่อในไทย 1. บริหารธุรกิจและการบัญชี รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านการจัดการธุรกิจ การเงิน การตลาด และการบัญชี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในองค์กรต่าง ๆ ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 17,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: นักบัญชี (Accountant) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 25,000 บาท/เดือน นักวิเคราะห์ทางการเงิน (Financial Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 45,000 บาท/เดือน ผู้บริหาร (Business Executive) – รายได้เริ่มต้น 30,000 - 70,000 บาท/เดือน 2. วิศวกรรมศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ พัฒนา และบำรุงรักษาระบบและโครงสร้างต่าง ๆ ในหลากหลายสาขา เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมโยธา ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 18,200 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: วิศวกรไฟฟ้า (Electrical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน วิศวกรเครื่องกล (Mechanical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 45,000 บาท/เดือน วิศวกรโยธา (Civil Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 28,000 - 40,000 บาท/เดือน ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน 3. นิติศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นนักกฎหมาย ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 24,000 บาท (ในภาคการศึกษาแรกหลังรวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ) ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: ทนายความ (Lawyer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 40,000 บาท/เดือน ที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Advisor) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 70,000 บาท/เดือน ผู้พิพากษา (Judge) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน อัยการ (Prosecutor) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน 4. แพทยศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์และการรักษาโรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นแพทย์ ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ค่าเล่าเรียน: ภาคการศึกษาละ 30,000 บาท ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: แพทย์ (Medical Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน ศัลยแพทย์ (Surgeon) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 120,000 บาท/เดือน แพทย์เฉพาะทาง (Specialist Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน (Private Hospital Doctor) – รายได้สูงกว่า 200,000 บาท/เดือน 5. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ค่าเล่าเรียน: หลักสูตรปกติ12,000 บาท/เทอม , โครงการพิเศษ 30,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน วิศวกรระบบ (Systems Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 50,000 บาท/เดือน ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI (AI Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 100,000 บาท/เดือน 6. นิเทศศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชน การประชาสัมพันธ์ และสื่อสารการตลาด ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 21,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: นักข่าว (Journalist) – เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 - 30,000 บาท/เดือน นักประชาสัมพันธ์ (PR Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 40,000 บาท/เดือน 7. เศรษฐศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจ ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 28,400 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: นักเศรษฐศาสตร์ (Economist) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 80,000 บาท/เดือน ผู้บริหารธนาคาร (Bank Executive) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน 8. ศึกษาศาสตร์ รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสอนและการบริหารการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นครูหรือผู้บริหารการศึกษา ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 20,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: ครู (Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน ผู้บริหารโรงเรียน (School Administrator) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน ที่ปรึกษาด้านการศึกษา (Education Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 60,000 บาท/เดือน 9. ภาษาต่างประเทศ รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่น ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 15,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: ล่าม (Interpreter) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน นักแปล (Translator) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน ผู้สอนภาษาต่างประเทศ (Foreign Language Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน 10. เทคโนโลยีสารสนเทศ รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ค่าเล่าเรียน: เฉลี่ยค่าเทอมแต่ละคณะ ประมาณ 45,000 - 50,000 บาท/เทอม ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) - เงินเดือนเริ่มต้น: 30,000 - 50,000 บาท/เดือน นักวิเคราะห์ระบบ (Systems Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 35,000 - 55,000 บาท/เดือน นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 25,000 - 45,000 บาท/เดือน ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 80,000 บาท/เดือน ผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ (Cloud Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 45,000 - 70,000 บาท/เดือน ผู้จัดการโครงการเทคโนโลยี (IT Project Manager) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 100,000 บาท/เดือน นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติที่มีคุณภาพไม่แพ้กับการเรียนที่ต่างประเทศเลย เช่น 1. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University - ABAC) คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ (MSME): เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นการพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับศิษย์เก่าและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เกณฑ์การรับสมัคร: นักศึกษาสามารถสมัครเข้าเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษหรือคณิตศาสตร์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เอง อย่างไรก็ตาม หากมีผลคะแนน TOEFL (iBT) ≥ 60 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0 จะได้รับการยกเว้นบางวิชา ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 70,000 บาท/เทอม 2. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University International College - MUIC) สาขาวิชาบริหารธุรกิจ: มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านการจัดการธุรกิจในระดับสากล สาขาวิชาวิทยาศาสตร์: เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์: เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาในด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS ≥ 6.0 (โดย Writing ≥ 6.0) หรือ TOEFL (iBT) ≥ 69 (โดย Writing ≥ 22) ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 200,000 - 300,000 บาท/เทอม 3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (International Program in Design and Architecture - INDA): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการออกแบบและสถาปัตยกรรม คณะบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration - BBA): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นการจัดการธุรกิจในระดับสากล คณะวิศวกรรมศาสตร์ (International School of Engineering - ISE): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์ ค่าเล่าเรียน: คณะ INDA ประมาณ 417,750 บาทต่อปี, คณะ BBA ประมาณ 251,250 บาทต่อปี, คณะ ISE ประมาณ 219,000 บาทต่อปี 4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University) คณะบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration - BBA): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการจัดการธุรกิจในระดับสากล คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Thammasat English Programme of Engineering - TEPE): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์ เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 80 หรือ IELTS (Academic) ≥ 6.0 และคะแนน SAT (Math) ≥ 600 ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 90,000 - 101,000 บาท/เทอม 5. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang - KMITL) คณะวิศวกรรมศาสตร์ (International College): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (School of Architecture, Art, and Design): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นการออกแบบและสถาปัตยกรรม เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 61 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0 ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 92,500 -100,000 บาท/เทอม การเรียนต่อไม่ใช่แค่โอกาสในการเพิ่มพูนความรู้ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเส้นทางอาชีพและพัฒนาตัวเองในระดับสากล ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อในไทยหรือต่างประเทศ การวางแผนล่วงหน้าและเลือกสาขาที่เหมาะสมกับความสนใจและตลาดแรงงานเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าใช้จ่าย เอกสารที่ต้องใช้ และโอกาสทางอาชีพหลังเรียนจบ หากใครกำลังมองหาแนวทางในการเรียนต่อทั้งในไทยเเละต่างประเทศหรืออัปสกิลเพื่อต่อยอดอาชีพ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Education Portal