Logo
  • โปรไฟล์มืออาชีพ
  • งาน
  • อาชีพ
    Career Tool Kitเส้นทางอาชีพการศึกษาการเติบโตแรงบันดาลใจ
    บุคลิกภาพงานและอุตสาหกรรมการค้นหางานประวัติ & ผลงานความเป็นอยู่ที่ดี
  • การศึกษา
  • เครื่องมือสร้างเรซูเม่
  • สำหรับผู้ใช้งานองค์กร



  • Jobcadu Logo

    แพลตฟอร์มอาชีพที่ดีที่สุดสำหรับการหางาน, การสรรหาบุคลากร, ค้นหาอาชีพ และค้นพบแหล่งการศึกษา

    30,000+ หน้าหางาน

    งานตามหมวดหมู่

    การขาย

    การตลาด

    บัญชีและการเงิน

    เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)

    ข้อมูลและการวิเคราะห์

    สำหรับผู้หางาน

    หน้าหางาน

    เครื่องมือสร้างเรซูเม่

    ทรัพยากรด้านการศึกษา

    ทรัพยากรเรซูเม่

    ประกาศงาน

    ประกาศงาน

    แหล่งข้อมูล

    เกี่ยวกับเรา

    ข้อกำหนดการใช้งาน

    นโยบายความเป็นส่วนตัว


    © 2025 Jobcadu. สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

    1. อาชีพ

    2. KPI คืออะไร ทำไมทุกองค์กรต้องมี

    KPI คืออะไร ทำไมทุกองค์กรต้องมี

    โพสต์เมื่อ November 25, 2024

    Jobs & Industries

    แท็ก:

    kpi คืออะไร
    กำหนด KPI ยังไง
    KPI คืออะไร ทำไมทุกองค์กรต้องมี

    KPI คืออะไร

    KPI (Key Performance Indicator) หรือ ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ หรือจะอธิบายง่าย ๆ ก็คือ เครื่องมือที่องค์กรใช้ในการประเมินและติดตามผลลัพธ์ของการทำงานของพนักงานหรือบริษัทเพื่อเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีมงานทุกส่วนในองค์กรเข้าใจหน้าที่และเป้าหมายของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น การกำหนด KPI อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายเท่านั้น แต่ยังช่วยประเมินสุขภาพขององค์กรในเชิงกลยุทธ์อีกด้วย

    ความหมายของ KPI

    • Key: ตัวชี้วัดที่เป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จหรือกุญแจที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมาย

    • Performance: ประสิทธิภาพหรือผลลัพธ์ของการทำงานในแต่ละด้าน

    • Indicator: ดัชนีชี้วัดที่ใช้ประเมินผล


    เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง KPI และ OKR

    KPI และ OKR (Objective and Key Results) ต่างก็เป็นเครื่องมือวัดผลที่องค์กรนิยมใช้ แต่มีจุดมุ่งหมายและลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

    วัตถุประสงค์:

    • KPI: เน้นการวัดผลและปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายระยะยาว

    • OKR: มุ่งเน้นเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและท้าทาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    การกำหนดเป้าหมาย:

    • KPI: ใช้แนวทาง "Top-Down" คือ ผู้บริหารกำหนดตัวชี้วัดและส่งต่อไปยังพนักงาน

    • OKR: ใช้ได้ทั้งแนวทาง "Top-Down" และ "Bottom-Up" เปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมาย

    ค่าตอบแทน:

    • KPI: มักใช้ในการประเมินเพื่อการปรับเงินเดือน โบนัส หรือรางวัล

    • OKR: ไม่ควรเกี่ยวข้องกับค่าตอบแทนโดยตรง เพราะอาจทำให้พนักงานไม่กล้าที่จะตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย หรือตั้งเพื่อเซฟ ๆ 

    การติดตามและวัดผล:

    • KPI: มีการติดตามเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส เพื่อประเมินความคืบหน้า

    • OKR: มีการติดตามผลอย่างยืดหยุ่นตามระยะเวลาของเป้าหมาย


    ประเภทของ KPI

    KPI สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายและบทบาทของแต่ละส่วนในองค์กร ดังนี้

    1. KPI เชิงกลยุทธ์ (Strategic)

    KPI ประเภทนี้เน้นการวัดผลที่ส่งผลต่อภาพรวมขององค์กร ใช้เพื่อติดตามเป้าหมายระดับสูงที่สำคัญ เช่น การเติบโตของรายได้หรือการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด

    ตัวอย่าง KPI เชิงกลยุทธ์:

    • ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)

    • รายได้รวม (Revenue)

    • ส่วนแบ่งตลาด (Market Share)

    2. KPI เชิงปฏิบัติการ (Operational)

    KPI ประเภทนี้เน้นการวัดผลในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นที่กระบวนการทำงานหรือประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

    ตัวอย่าง KPI เชิงปฏิบัติการ:

    • ยอดขายต่อภูมิภาค

    • ต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (Cost per Acquisition)

    • ระยะเวลาเฉลี่ยในการจัดส่งสินค้า

    3. KPI สำหรับหน่วยงานเฉพาะทาง (Functional Unit)

    KPI เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละแผนก เช่น การเงิน การตลาด หรือไอที

    ตัวอย่าง KPI สำหรับหน่วยงานเฉพาะทาง:

    • ฝ่ายการเงิน: กำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin), ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (Return on Assets)

    • ฝ่ายไอที: เวลาแก้ไขปัญหา (Time to Resolution), ช่วงเวลาที่ระบบพร้อมใช้งานเฉลี่ย (Average Uptime)

    4. ตัวชี้วัดล่วงหน้าและย้อนหลัง (Leading vs Lagging Indicators)

    • Leading Indicators: ตัวชี้วัดที่ช่วยคาดการณ์ผลลัพธ์ในอนาคต เช่น จำนวนลูกค้าใหม่ที่ติดต่อเข้ามา

    • Lagging Indicators: ตัวชี้วัดที่ใช้วัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น รายได้ประจำปี


    วิธีพัฒนา KPI อย่างมีประสิทธิภาพ

    การพัฒนา KPI อย่างถูกต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจเป้าหมายขององค์กร และสร้างตัวชี้วัดที่สามารถสะท้อนความสำเร็จได้อย่างแท้จริง การกำหนด KPI ควรเป็นไปตามหลักการ SMART (Specific, Measurable, Attainable, Realistic, Time-Bound) เพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง

    แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพัฒนา KPI

    • ผูก KPI กับเป้าหมายธุรกิจ: โดยการเลือกตัวชี้วัดที่สอดคล้องกับเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร

    • ทำให้ KPI ชัดเจน: สื่อสารให้พนักงานเข้าใจเป้าหมายและตัวชี้วัด เพื่อให้ทุกคนเดินไปในทิศทางเดียวกัน

    • ติดตามและปรับปรุง: ตรวจสอบความเหมาะสมของ KPI อย่างสม่ำเสมอ และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

    • โฟกัสที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ: อย่าวัดทุกสิ่งที่ทำได้ แต่ควรเลือกเฉพาะตัวชี้วัดที่มีผลกระทบสูงสุดต่อองค์กร

    ตัวอย่างการใช้งาน KPI ในองค์กร

    สมมติว่าบริษัทต้องการเพิ่มยอดขายในไตรมาสหน้า ทีมงานสามารถกำหนด KPI ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น

    1. เพิ่มยอดขาย 10% ภายในไตรมาสถัดไป

    2. เพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่ 20 รายต่อเดือน

    3. ลดต้นทุนต่อการได้ลูกค้าลง 5%

    เมื่อมี KPI ที่ชัดเจน ทีมงานจะสามารถแบ่งหน้าที่ วางแผน และติดตามผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    เห็นได้ว่า KPI เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถวางแผน ติดตามผล และปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อบรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ KPI ที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้องค์กรมองเห็นจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเอง แต่ยังช่วยสร้างความร่วมมือภายในทีมงานให้ก้าวไปในทิศทางเดียวกันอย่างมั่นคงนั่นเอง สำหรับใครคนไหนที่สนใจอ่านบทความต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ก็สามารถติดตามบทความเพิ่มเติมได้ เส้นทางอาชีพจาก Jobcadu






    อาชีพที่เกี่ยวข้อง

    Want to Earn Extra Income on Weekends? Start a Freelance Copywriting Career with Zero Experience
    JOBS & INDUSTRIES

    Want to Earn Extra Income on Weekends? Start a Freelance Copywriting Career with Zero Experience

    อยากมีรายได้เสริมวันหยุด? เริ่มอาชีพ Freelance Copywriter ได้แม้ไม่มีประสบการณ์
    JOBS & INDUSTRIES

    อยากมีรายได้เสริมวันหยุด? เริ่มอาชีพ Freelance Copywriter ได้แม้ไม่มีประสบการณ์

    ไม่ต้องย้ายเมือง ก็ทำงานสาย Digital กับบริษัท Tech ได้! 5 ประเภทองค์กรในเชียงใหม่ที่กำลังมองหา Digital Marketers
    JOBS & INDUSTRIES

    ไม่ต้องย้ายเมือง ก็ทำงานสาย Digital กับบริษัท Tech ได้! 5 ประเภทองค์กรในเชียงใหม่ที่กำลังมองหา Digital Marketers

    จรรยาบรรณในอาชีพคืออะไร? และอาชีพไหนบ้างที่ใช้จรรยาบรรณในวิชาชีพสูงมากเป็นพิเศษ
    JOBS & INDUSTRIES

    จรรยาบรรณในอาชีพคืออะไร? และอาชีพไหนบ้างที่ใช้จรรยาบรรณในวิชาชีพสูงมากเป็นพิเศษ

    “Big 4 คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่ทำงานในฝันของเด็กจบใหม่สายบัญชี–การเงิน รายได้ดีจริงไหม? มาดูกัน”
    JOBS & INDUSTRIES

    “Big 4 คืออะไร? ทำไมถึงเป็นที่ทำงานในฝันของเด็กจบใหม่สายบัญชี–การเงิน รายได้ดีจริงไหม? มาดูกัน”

    MBB หรือ Big 3 คืออะไร? ทำไมรายได้ถึง “หลักแสน” ใครๆ ก็อยากไปทำงาน?
    JOBS & INDUSTRIES

    MBB หรือ Big 3 คืออะไร? ทำไมรายได้ถึง “หลักแสน” ใครๆ ก็อยากไปทำงาน?

    Traditional Marketing คืออะไร ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้
    JOBS & INDUSTRIES

    Traditional Marketing คืออะไร ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้

    Digital Marketing คืออะไร? ในยุคที่ทุกอย่างเป็นดิจิทัล ทุกธุรกิจจึงต้องปรับตัว
    JOBS & INDUSTRIES

    Digital Marketing คืออะไร? ในยุคที่ทุกอย่างเป็นดิจิทัล ทุกธุรกิจจึงต้องปรับตัว

    ไม่ชอบเข้าสังคมไม่ได้แปลว่าไม่ดี! มารู้จักกับ 7 อาชีพที่คน Introvert ทำได้ดี
    JOBS & INDUSTRIES

    ไม่ชอบเข้าสังคมไม่ได้แปลว่าไม่ดี! มารู้จักกับ 7 อาชีพที่คน Introvert ทำได้ดี