
Pride Month คืออะไร? ทำไมองค์กรควรให้ความสำคัญ และมีบริษัทไหนบ้างในไทยที่เปิดรับ LGBTQ+ อย่างจริงจัง
Pride Month คืออะไร? Pride Month หรือ เดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQ+ (1-30 มิถุนายน )จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ทั่วโลกร่วมกันเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศและสนับสนุนสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQIAN+ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Queer, Intersex, Asexual, Non-binary และอื่นๆ) เดือนนี้มีที่มาจากการจลาจลสโตนวอลล์ (Stonewall Riots) ในนครนิวยอร์กเมื่อปี 1969 ซึ่งเป็นการลุกฮือของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศเพื่อเรียกร้องสิทธิและความเท่าเทียม นับตั้งแต่นั้นมา Pride Month ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อการยอมรับ การเปิดเผยตัวตน และการสร้างความเข้าใจในสังคม Lesbian : ผู้หญิงที่รักหรือดึงดูดทางเพศกับผู้หญิงด้วยกัน Gay : ผู้ชายที่รักหรือดึงดูดทางเพศกับผู้ชายด้วยกัน (บางครั้งใช้รวมหมายถึงคนรักเพศเดียวกันทุกเพศ) Bisexual : คนที่ดึงดูดทางเพศได้ทั้งกับเพศเดียวกันและเพศตรงข้าม Transgender : คนที่อัตลักษณ์ทางเพศไม่ตรงกับเพศกำเนิด Queer : คำเรียกรวมๆ สำหรับคนที่ไม่เป็นไปตามเพศวิถีหรืออัตลักษณ์ทางเพศแบบดั้งเดิม (บางคนใช้เพื่อระบุอัตลักษณ์ของตนเอง) Intersex : คนที่เกิดมามีลักษณะทางเพศ (เช่น โครโมโซม อวัยวะสืบพันธุ์ หรือฮอร์โมน) ที่ไม่เข้ากับการจำแนกเป็นชายหรือหญิงแบบชัดเจน Asexual : คนที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศต่อผู้อื่น หรือดึงดูดน้อยมาก Non-binary : คนที่ไม่ระบุอัตลักษณ์ทางเพศของตนว่าเป็นชายหรือหญิงโดยตรง อาจอยู่ระหว่างหรืออยู่นอกเหนือระบบสองเพศ (binary) ในแต่ละปี Pride Month จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรด (Pride Parade) การจัดงานเสวนา การแสดงดนตรี ศิลปะ และกิจกรรมที่เน้นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและการรวมตัวของกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ Pride ไม่ใช่แค่การเฉลิมฉลอง มันคือช่วงเวลาสำคัญในการ ทบทวนบทบาทของตนเองในที่ทำงานและสังคม ว่าเราได้เปิดพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมงานหรือไม่ และได้ส่งเสริมความหลากหลายอย่างแท้จริงหรือเปล่า ตัวอย่างบริษัทที่ใส่ใจความหลากหลาย สนับสนุน LGBTQ+ อย่างจริงจัง 1. ศรีจันทร์ สหโอสถ บริษัทไทยที่แสดงออกถึงการเปิดรับความหลากหลายผ่าน นโยบายสวัสดิการแบบครอบคลุม ไม่ว่าคุณจะโสด มีครอบครัว หรือเป็นชาว LGBTQ+ ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการอย่างเท่าเทียม โดยมีสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ เช่น: ลาคลอด (Maternity Leave) ได้สูงสุด 180 วัน โดยยังได้รับค่าจ้างตามปกติ พ่อลางานได้ 30 วันเพื่อดูแลภรรยาและลูก (Parental Leave) ลาเพื่อการผ่าตัดแปลงเพศได้สูงสุด 30 วัน ลาพักใจในกรณีสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ได้ไม่เกิน 10 วัน 2. Johnson & Johnson องค์กรระดับโลกที่มีนโยบายด้านความหลากหลายทางเพศอย่างเด่นชัด และ ขยายสวัสดิการให้ครอบคลุมถึงคู่ชีวิตเพศเดียวกัน โดยพนักงาน LGBTQ+ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลของคู่ชีวิตได้ และยังมีสิทธิ์ในการเข้าถึงประกันสุขภาพ การรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน/นอก รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิตทั้งของพนักงานและสมาชิกครอบครัว 3. LINE MAN Wongnai ภายใต้ Core Value อย่าง “Respect Everyone” องค์กรนี้ได้ออกสวัสดิการเฉพาะที่แสดงถึงการเคารพและสนับสนุนพนักงาน LGBTQ+ เช่น: เงินสนับสนุนการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน 20,000 บาท สิทธิ์ลาสำหรับการรับบุตรบุญธรรม 10 วัน ลาพักเพื่อผ่าตัดแปลงเพศสูงสุด 30 วัน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมช่วง Pride Month ทั้งกิจกรรมดูหนัง LGBTQ+, เชิญแขกรับเชิญมาเสวนา และเปิดโครงการระดมทุนภายในเพื่อส่งต่อให้มูลนิธิด้านความเท่าเทียม 4. แสนสิริ ถือเป็นบริษัทไทยรายแรกที่ลงนามในแนวปฏิบัติระดับโลกของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนของ LGBTQ+ โดยให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทั้งในองค์กรและสังคม เช่น: วันลาสมรส 6 วัน/ปี (สำหรับทุกคู่ชีวิต) ลาผ่าตัดแปลงเพศ 30 วัน/ปี ลาฌาปนกิจคู่ชีวิต 15 วัน/ปี ลาดูแลคู่ชีวิตหรือบุตรบุญธรรม 7 วัน/ปี ขยายความคุ้มครองประกันสุขภาพให้กับคู่ชีวิตของพนักงาน 5. Shell Thailand Shell มีการจัดตั้งเครือข่าย LGBTQ+ Network ภายในบริษัท เพื่อส่งเสริมความเข้าใจและให้การสนับสนุนเพื่อนร่วมงาน LGBTQ+ อย่างแท้จริง นอกจากนี้ Shell ยังเป็นสมาชิกของ Workplace Pride ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรระดับนานาชาติ ที่มีเป้าหมายสนับสนุนความเท่าเทียมในสถานที่ทำงานทั่วโลก บริษัทที่สนับสนุน Pride Month โดยการบริจาคหรือทำแคมเปญ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.): จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว LGBTQ+ ทั่วประเทศ เเละสนับสนุนงาน Pride ผ่านการใช้ "Soft Power" ของเทศกาลและกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศและกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการจัดกิจกรรม Amazing Thailand Love Wins Festival (Pride Month) 2568 ทั่วประเทศตลอดเดือนมิถุนายน TikTok Thailand: เปิดตัวแคมเปญ #PrideTogether ส่งเสริมเสียงของ LGBTQ+ creators บนแพลตฟอร์ม พร้อมทั้งสนับสนุนเงินให้มูลนิธิ LGBTQ+ ในไทย IKEA Thailand: ออกสินค้ารุ่น Pride พิเศษ ผ่านการใช้แฮชแท็ก #IKEAforeveryone เพื่อแสดงออกถึงการเคารพและสนับสนุนในความหลากหลาย เเละยังมีแคมเปญ "บ้าน...ที่ทุกคนเป็นตัวเองได้เต็มที่ (Make the World Everyone's Home)" โดยใช้ ธงสายรุ้งเป็นสัญลักษณ์หลัก เพื่อสะท้อนแนวคิดที่ว่า “ทุกคนควรรู้สึกว่าทุกที่คือบ้าน” ไม่ว่าจะเป็นเพศใด วัยไหน หรือมีอัตลักษณ์ทางเพศแบบใดก็ตาม โดยรายได้ส่วนหนึ่งบริจาคให้มูลนิธิที่ส่งเสริมความเท่าเทียม แนวทางปฏิบัติตัวต่อเพื่อนร่วมงาน LGBTQ+ ใช้สรรพนามให้ถูกต้อง: หากไม่แน่ใจ ให้ถามอย่างสุภาพ หรือดูจากลายเซ็นอีเมลหรือโปรไฟล์ อย่าเดาอัตลักษณ์ทางเพศ ของใครจากรูปลักษณ์ ไม่ใช้คำถามส่วนตัวหรือหยาบคาย เพราะถือเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว ส่งเสริมและสนับสนุนอย่างแท้จริง เช่น เข้าร่วมกิจกรรม Pride, แชร์ข้อมูลหรือแคมเปญที่มีประโยชน์, สนับสนุนสินค้าหรือบริการจากกลุ่ม LGBTQ+ พูดคุยด้วยความเคารพเสมอ เช่นเดียวกับที่คุณอยากให้คนอื่นเคารพคุณ บริษัทที่แสดงการสนับสนุนอย่างชัดเจนและต่อเนื่องมักจะเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและมีนโยบายด้านความหลากหลายที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว การที่บริษัทแสดงจุดยืนในการสนับสนุน Pride Month ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างภาพลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงค่านิยมขององค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียม การยอมรับ และการสร้างสังคมที่ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ ทำไม Pride ถึงสำคัญต่อที่ทำงาน? Pride Month ไม่ได้มีไว้แค่เฉลิมฉลอง แต่คือการชวนให้ทุกคน กลับมาทบทวนบทบาทของตัวเองในองค์กร ว่าเราได้เปิดพื้นที่และโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมแล้วหรือยัง หากคุณเป็นทั้งผู้สมัครงาน หรือ HR ขององค์กร Jobcadu ขอเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่สนับสนุนความหลากหลายทางเพศ ด้วยการเปิดให้คุณเลือกอัตลักษณ์ได้อิสระ สร้างโปรไฟล์ที่ตรงกับตัวตนของคุณ และเชื่อมโยงคุณกับองค์กรที่เห็นคุณค่าที่แท้จริงในตัวคุณ อย่ารอช้า! เริ่มต้นเส้นทางอาชีพใหม่ที่น่าตื่นเต้นกับ Jobcadu Jobs วันนี้! ลงทะเบียนสร้างโปรไฟล์ของ คุณ และค้นพบโอกาสงานที่รอคุณอยู่