
พอเข้าใกล้ช่วงฝึกงาน บางมหาลัยฯ ก็เริ่มให้นักศึกษาเริ่มหาที่ฝึกงานกันแล้ว แต่ว่าบางคนก็ยังไม่ได้เริ่มหาและเริ่มทำเรซูเม่ฝึกงานเลย วันนี้ Jobcadu จึงมาแนะนำวิธีการเขียนเรซูเม่ฝึกงานอย่างถูกต้อง ต้องเขียนยังไง ต้องมีอะไรบ้าง ไม่มีประสบการณ์ทำไง ทำในแอปไหน บทความนี้รวบรวมไว้ให้หมดแล้ว
เรซูเม่ฝึกงานคืออะไร
เรซูเม่ฝึกงาน (Internship Resume) คือเอกสารสำคัญที่ผู้สมัคต้องส่งให้กับ HR หรือนายจ้าง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสมัครฝึกงาน โดยมีจุดประสงค์คือนำเสนอและอธิบายประวัติส่วนตัวภายในรูปแบบเอกสาร ซึ่งประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษา ทักษะ และประสบการณ์ (ถ้ามี) ของผู้สมัคร เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสมัครฝึกงาน (Internship) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ HR หรือนายจ้างเห็นว่าเราเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นอย่างไร แม้ว่าผู้สมัครจะยังไม่มีประสบการณ์การทำงานเต็มตัวก็ตาม แต่ก็เพื่อเป็นใบเบิกทางสู่อาชีพ การฝึกงานจึงต้องเป็นเรื่องที่จำเป็น
ทำไมต้องฝึกงานและต้องใช้เรซูเม่ฝึกงาน
- ได้ทดลองทำงานในสายงานนั้น ๆ การฝึกงานสิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้เลย เมื่อเวลาจบใหม่แล้วจะได้เปรียบถ้าเรามีประสบการณ์ฝึกงานในด้านนั้น ๆ ที่หาไม่ได้ที่ไหนแล้วในสถานที่ทำงานจริง
- สร้าง Connection การฝึกงานนั้น เราก็จะมีเพื่อนร่วมงานที่ทำงานในสายนั้นจริง ๆ หากเราเป็นคนที่มีความสามารถในด้าน ๆ นั้น เราก็จะเป็นที่จับตามองในกลุ่มคนทำงานว่า น้องคนนี้มันเก่ง เดี๋ยวไปแนะนำให้คนที่รู้จักดีกว่า ก็จะช่วยให้เรามีโอกาสในการได้งานในภายหลังก็ได้
- สร้างข้อได้เปรียบในเรซูเม่ เรซูเม่ที่แข็งแกร่งพร้อมประสบการณ์จริงจะมอบจุดเด่นกว่าผู้สมัครรายอื่นเมื่อสมัครงานไม่ว่าจะเป็นทักษะ soft skills และ hard skills ที่ได้เรียนรู้ตอนฝึกงาน และทำให้ HR เห็นว่าเราเคยทำงานเนื้องานประมาณนี้
- การเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร ในฐานะผู้ฝึกงาน เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานเป็นพนักงานเต็มเวลา ได้สังเกตการทำงานของมืออาชีพที่มีประสบการณ์และอยู่ในสายงานนั้น ๆ
- พัฒนาทักษะการจัดการเวลา การฝึกงานนั้น จะต้องใช้ทักษะในการ mange เวลาให้ตรงตามไทม์ไลน์ ซึ่งเป็นหนึ่งที่ที่จำเป็นสุด ๆ ในการนำไปปรับใช้ในการทำงานจริง
- เพิ่มความมั่นใจในการทำงาน การฝึกงานช่วยให้เรามีความมั่นใจในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นทักษะเฉพาะหรือเป็นน้องฝึกงานทั่วไป ยิ่งเรามีชั่วโมงบินในสภาพแวดล้อมการทำงานมากเท่าใด เราก็จะรู้สึกสบายใจและมั่นใจมากขึ้นในความสามารถของมากขึ้น
- ได้ Mentor ที่จริงใจ นอกจากได้ connection แล้ว เรายังจะได้เมนเทอร์ที่มีศักยภาพจากการฝึกงาน ที่จะคอยแนะนำ สอน ไกด์เส้นทางอาชีพที่เราสามารถไปต่อได้ในอนาคต ที่ไม่ได้หาเจอในอินเทอร์เน็ตว่า สายงานที่ต้องการมในอนาคต แต่เป็นข้อมูลภายในที่คนในวงการนั้นและรู้ปัญหาของงานนั้นจริง ๆ
ทำไมต้องใช้เรซูเม่สำหรับฝึกงาน
เป็นเอกสารแนะนำตัวเบื้องต้น
เรซูเม่เป็นสิ่งแรกที่นายจ้างเห็นก่อนตัดสินใจเรียกสัมภาษณ์ ช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าเราเป็นใคร เรียนด้านไหน มีทักษะหรือความสนใจอะไร และเหมาะสมกับการฝึกงานในองค์กรหรือไม่
แสดงให้เห็นความพร้อมและความตั้งใจ
การมีเรซูเม่แสดงถึงความใส่ใจและความจริงจังต่อการสมัครฝึกงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเรซูเม่นั้นถูกเรียบเรียงอย่างดีและตรงกับความต้องการของตำแหน่งที่สมัคร
ช่วยนำเสนอศักยภาพแม้ไม่มีประสบการณ์การทำงาน
สำหรับนักศึกษา หรือผู้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน เรซูเม่เป็นสิ่งที่สามารถแสดงทักษะ ความสำเร็จในกิจกรรม หรือโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานได้ เช่น กิจกรรมในชมรม การทำโปรเจกต์ในมหาวิทยาลัย หรือการเข้าร่วมแข่งขัน
เรซูเม่ฝึกงานไม่มีประสบการณ์ ส่งได้ไหม
หากไม่มีประสบการณ์ในการทำงานเลย Jobcadu แนะนำว่าให้เราพูดถึงประสบการณ์ทำงานที่ทำในมหาลัยฯ เช่น การเป็นสโมสรนักเรียน การเป็นทีมงานงบประมาณของเอก หรือการทำกิจกรรม รวมถึงวิชาเรียนที่เราสามารถนำไปเชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่สมัครได้ และสิ่งเหล่านี้หวนคืนทำให้เป็นสิ่งที่จุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานตำแหน่งนี้
เรซูเม่ฝึกงานประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
1. ข้อมูลส่วนตัว (Personal Information)
เขียนอะไรบ้าง:
- ชื่อ-นามสกุล
- เบอร์โทรศัพท์
- อีเมล (ใช้ที่ดูเป็นทางการ)
- ลิงก์ LinkedIn หรือ Portfolio (ถ้ามี)
เคล็ดลับการเขียน:
- ใช้ข้อมูลที่อัปเดต เป็นปัจจุบันและติดต่อได้
- อีเมลควรดูเป็นมืออาชีพ เช่น [ชื่อ.นามสกุล]@gmail.com
2. เป้าหมายในการทำงาน (Career Objective)
เขียนอะไรบ้าง:
- บอกเป้าหมายในการฝึกงาน
- ระบุว่าต้องการเรียนรู้อะไรและจะนำทักษะใดมาช่วยงานบริษัท
ตัวอย่าง:
"ฉันต้องการใช้ความรู้ด้าน [สาขาวิชาหรือทักษะเฉพาะ] เพื่อช่วยสนับสนุนองค์กร พร้อมทั้งพัฒนาทักษะในด้าน [ระบุด้านที่คุณอยากเรียนรู้] ให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น"
เคล็ดลับการเขียน:
- ใช้คำที่กระชับและเป็นมืออาชีพ
- ปรับข้อความให้ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัคร
3. ประวัติการศึกษา (Education)
เขียนอะไรบ้าง:
- ชื่อสถาบันการศึกษา
- ระดับการศึกษาและสาขาวิชา
- ปีที่คาดว่าจะสำเร็จการศึกษา
- เกรดเฉลี่ย (GPA) (ถ้ามีความโดดเด่น)
ตัวอย่าง:
- มหาวิทยาลัย ABC, คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด (คาดว่าจะสำเร็จการศึกษา ปี 2568)
- เกรดเฉลี่ย: 3.75
เคล็ดลับการเขียน:
- เน้นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร
- หากเกรดเฉลี่ยไม่สูง อาจจะไม่ใส่ก็ได้ เป็น Optional
4. ทักษะ (Skills)
เขียนอะไรบ้าง:
- Hard Skills เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์, การออกแบบ, หรือการเขียนโค้ด
- Soft Skills เช่น การสื่อสาร, การทำงานเป็นทีม, หรือการแก้ปัญหา
ตัวอย่าง:
- Hard Skills: Data Analytic, Adobe Photoshop, Python Programming
- Soft Skills: ความสามารถในการจัดการเวลา, การทำงานร่วมกับผู้อื่น
เคล็ดลับการเขียน:
- จัดลำดับทักษะที่เกี่ยวข้องกับงานไว้ในตำแหน่งที่มองเห็นง่าย
5. ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง (Experience)
เขียนอะไรบ้าง:
- ระบุโครงการ การฝึกงาน หรือการทำงานชั่วคราวที่ผ่านมา
- บอกหน้าที่รับผิดชอบและสิ่งที่ได้เรียนรู้
ตัวอย่าง:
โครงการพัฒนาระบบจัดการข้อมูลนักศึกษา มหาวิทยาลัย ABC (2565)
- หน้าที่: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับทีม
- สิ่งที่ได้เรียนรู้: การทำงานร่วมกับคนในทีมและการใช้ Microsoft Access
เคล็ดลับการเขียน:
- เน้นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณมีทักษะและประสบการณ์ตรงกับงาน
- เขียนให้กระชับและมีโครงสร้างชัดเจน
6. กิจกรรมและความสำเร็จ (Activities and Achievements)
เขียนอะไรบ้าง:
- กิจกรรมในมหาวิทยาลัย เช่น ชมรม การแข่งขัน หรือโครงการอาสา
- รางวัลหรือการยอมรับที่เกี่ยวข้อง
ตัวอย่าง:
- ประธานชมรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัย ABC (2564-2565)
- รองชนะเลิศอันดับ 1 การประกวดแผนการตลาดระดับประเทศ (2566)
เคล็ดลับการเขียน:
- ระบุบทบาทและผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ทำเรซูเม่ในแอปไหนได้บ้าง
- Jobcadu Resume - เป็นเว็บไซต์ที่มี Tools AI ที่ช่วยเกลาคำภาษาอังกฤษของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเทมเพลตให้เลือกใช้ เมื่อสร้างเสร็จสามารถดาวน์โหลดหรือนำส่งบริษัทชั้นนำได้อีกด้วย
- Canva - มีเทมเพลตให้เลือกมากมายหลากหลายสไตล์ ใช้ได้ทั้งในมือถือและแทปเล็ต สามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ มีทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ฟีเจอร์ครอบคลุมทั้งการออกแบบเรซูเม่ โปสเตอร์ และอื่นๆ
- Microsoft Word - เป็นโปรแกรมที่คุ้นเคย สามารถควบคุมรูปแบบและเนื้อหาได้อย่างละเอียด มีเทมเพลตให้เลือกไม่เยอะ แต่ก็เป็นโปรแกรมที่ทุกคนใช้เป็น นอกจากนั้นยังทำบนเว็บไซต์ได้อีกด้วย
- Rawpixel - เป็นเว็บไซต์ที่รวมรวมเทมเพลตมาเยอะมาก และสามารถโหลดมา edit ได้เลย
- Wix - เป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปที่สามารถทำเรซูเม่ พอร์ตฟอลิโอ และเว็บไซต์ได้ เหมาะกับยุคดิจิทัลสุด ๆ ไปเลย แต่ก็อาจจะซับซ้อนเกินไปสำหรับมือใหม่ แต่น่าสนใจแน่นอนถ้าสามารถทำได้
การมีเรซูเม่ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการฝึกงาน การใช้เว็บไซต์สร้างเรซูเม่จะช่วยให้มีเรซูเม่ที่สวยงามและน่าประทับใจ แต่การทำเรซูเม่ก็มีหลายจุดที่ต้องเช็กดี ๆ เพราะว่าบางจุดก็อาจจะทำให้ HR ปัดตกของเราได้ ไม่ว่าเราจะมาในตำแหน่งคนมาฝึกงานหรือมาสมัครงาน ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาดูที่บทความนี้ได้เลย ทำเรซูเมยังไงให้มัดใจ HR เมื่อแรกเห็น