
Traditional Marketing คืออะไร ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้
อะไร ๆ ก็ Digital Marketing การเข้าสู่โลกดิจิทัล ก็ไม่ได้แปลว่าการตลาดแบบดั้งเดิมแบบคลาสสิคจะไม่จำเป็นอีกต่อไป บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตลาดแบบดั้งเดิม รวมถึงข้อดีข้อเสีย และเปรียบเทียบกับการตลาดดิจิทัล Traditional Marketing คืออะไร Traditional Marketing หรือ การตลาดแบบดั้งเดิม คือจะเน้นไปที่การทำการตลาดผ่านสื่อที่ไม่ได้อยู่ในระบบออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม เช่น สื่อสิ่งพิมพ์: หนังสือพิมพ์ นิตยสาร โบรชัวร์ หรือใบปลิว สื่อโทรทัศน์และวิทยุ ป้ายโฆษณากลางแจ้ง (Billboard) การจัดอีเวนต์ งานแสดงสินค้า หรือเข้าร่วมนิทรรศการต่าง ๆ การแจกสินค้าตัวอย่าง (Sampling) การตลาดทางโทรศัพท์ (Telemarketing) การตลาดแบบดั้งเดิมคือวิธีที่จับต้องได้จริง และมองเห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งแม้ว่าในมุมหนึ่งอาจดูว่าเชยหรือล้าสมัยเมื่อเทียบกับยุคดิจิทัล แต่ความจริงแล้วก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่เน้นขายเฉพาะในพื้นที่ (Local Market) ที่ไม่ได้เน้นขายออนไลน์หรือส่งทั่วประเทศ เช่น ร้านอาหารท้องถิ่น ร้านชำ หรือร้านค้าที่ค้าขายงานบริการในชุมชน การตลาดดั้งเดิมอย่างการแจกใบปลิว ติดป้ายประกาศ หรือโฆษณาผ่านวิทยุชุมชน ก็ยังคงเป็นเทคนิคการตลาดที่ได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ การตลาดประเภทนี้มีจุดเด่นที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภควงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ได้ใช้สื่อดิจิทัลบ่อยเช่น ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตัวอย่างแนวคิดการตลาดที่น่าสนใจของ คุณตัน ภาสกรนที นักธุรกิจที่เติบโตมาพร้อมการตลาดแบบ “เถ้าแก่” และพัฒนาแนวทางของตัวเองที่เรียกว่า Spider Marketing ซึ่งหมายถึงการวางสินค้าและแบรนด์ให้ล้อมรอบชีวิตประจำวันของผู้คน เหมือนใยแมงมุมที่ผู้บริโภคจะไปทางไหนก็ต้องเจอกับแบรนด์นั้น เขาเคยเล่าว่า "ผมก็ทำมาร์เก็ตติ้งแบบธรรมดามาก หนังสือเล่มแรกของผม ‘ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน’ ก็เขียนว่า Spider Marketing ตอนเด็ก ๆ ผมคุ้นเคยกับการตลาดแบบเถ้าแก่ และผมสร้างประวัติศาสตร์สไปเดอร์มาร์เก็ตติ้งหลายครั้ง ทั้งสำเร็จและล้มเหลว" แนวทางของเขาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ขายของ แต่เน้นการเชื่อมโยงประสบการณ์ เช่น ร้านหนังสือพิมพ์ของเขา จะมอบคูปองให้ลูกค้าไปกินกาแฟฟรีที่ร้านกาแฟของเขา ซื้อหนังสือก็ได้ส่วนลดร้านเบเกอรี่ ทุกธุรกิจเชื่อมโยงกันเหมือนใยแมงมุม นี่คือการสร้าง “เครือข่ายประสบการณ์” ที่ทำให้ผู้บริโภคอยู่ในวงจรแบรนด์อย่างแนบเนียน เขาเคยพูดในงาน Bitkub Meetup ว่า “ทุกวิกฤตมันคือโอกาส อยู่ที่ว่าเราหาเจอหรือเปล่า ตราบใดที่เรายังมีชีวิต เเปลว่าเรายังมีโอกาส” ไม่ว่าเราจะใช้วิธีดั้งเดิมหรือเทคโนโลยีล้ำหน้าแค่ไหน สุดท้ายความจริงใจ ความกล้า และการลงมือทำ คือสิ่งที่ผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ Traditional Marketing มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ข้อดีของ Traditional Marketing สร้างความน่าเชื่อถือ: การโฆษณาผ่านโทรทัศน์หรือหนังสือพิมพ์ยังคงให้ภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือแก่ผู้บริโภค เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มได้ดี: โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก อาจจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุ หรือมีกำลังซื้อสูง สื่อสารได้อย่างเป็นรูปธรรม: สื่อสิ่งพิมพ์หรือการจัดกิจกรรมจริงสามารถกระตุ้นประสบการณ์ให้ลุกค้า เช่น การได้สัมผัส ทดลองสินค้า ข้อเสียของ Traditional Marketing ต้นทุนสูง: โฆษณาทางโทรทัศน์หรือป้ายกลางแจ้งมักใช้ต้นทุนจำนวนมาก วัดผลได้ยาก: การประเมินผลของแคมเปญทำได้ไม่แม่นยำเท่ากับการตลาดดิจิทัล ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ทันที: หากเนื้อหาโฆษณามีปัญหา การแก้ไขต้องใช้เวลาและงบประมาณเพิ่มเติม Traditional Marketing และ Digital Marketing แตกต่างกันอย่างไร Traditional Marketing ใช้ช่องทางแบบออฟไลน์ เช่น ทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ และป้ายโฆษณา มีจุดเด่นคือเหมาะกับการเข้าถึงผู้คนในวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ท้องถิ่น แต่จำกัดด้านเวลาและพื้นที่ อีกทั้งการสื่อสารเป็นทางเดียว ไม่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที และยากต่อการวัดผล นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่สูง ขณะที่ Digital Marketing ใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น โซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ และอีเมล ทำให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ตลอดเวลาและในทุกที่ มีการโต้ตอบกับลูกค้าได้ทันที วัดผลได้แบบเรียลไทม์ และสามารถปรับงบประมาณได้อย่างยืดหยุ่น การเลือกใช้แนวทางใดขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกลุ่มลูกค้า การผสมผสานทั้งสองรูปแบบอย่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและขยายโอกาสทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น Traditional Marketing ยังจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้? คำตอบคือ “ยังจำเป็น” แต่ควรใช้อย่างมีกลยุทธ์และผสมผสานกับการตลาดดิจิทัล เพราะการตลาดแบบดั้งเดิมยังคงมีประสิทธิภาพในบางบริบท เช่น แบรนด์ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือ หรือกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ใช่ผู้ใช้งานออนไลน์ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเช่น อสังหาริมทรัพย์ สินค้าอุปโภคบริโภค หรือบริการในท้องถิ่น ในยุคปัจจุบัน การตลาดที่ได้ผลที่สุดไม่ใช่การเลือกเพียงแบบใดแบบหนึ่ง แต่คือการผสมผสานระหว่าง Traditional Marketing และ Digital Marketing อย่างลงตัว เพื่อทำการตลาดที่ครบวงจรและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อยากเข้าใจเรื่องการตลาดให้ลึกขึ้น เพื่อพัฒนาอาชีพหรือธุรกิจของให้ก้าวหน้า สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกของการทำงาน การตลาด และการพัฒนาตัวเองได้ที่ Jobcadu เลย