9 Archetype ของการดึงดูด: ปลดล็อกพลังในชีวิตการทำงานและส่วนตัว

โพสต์เมื่อ September 12, 2024

Personality

แท็ก:

แบบทดสอบ Archetype
The Art of Seduction
Robert Greene
archetype แบบทดสอบ
archetype 9 แบบทดสอบ
archetype แบบทดสอบไทย
9 archetype แบบทดสอบ
9 Archetype Test
Human Psychology
Social Dynamics
archetype test ไทย
9 Archetype ของการดึงดูด: ปลดล็อกพลังในชีวิตการทำงานและส่วนตัว


Robert Greene เขียนหนังสือ The Art of Seduction ในหัวข้อจิตวิทยาของการดึงดูดผ่านต้นแบบทั้ง 9 Archetype ซึ่งไม่เพียงแค่เกี่ยวกับเสน่ห์ในเชิงโรแมนติก แต่การเข้าใจ Archetype เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณได้เปรียบ ไม่ว่าคุณจะพยายามโน้มน้าวเพื่อนร่วมงาน ชนะใจลูกค้า หรือเป็นผู้นำลูกทีมอย่างมีประสิทธิภาพ


> ลองทำแบบทดสอบ The Seduction Archetype <


ทำความเข้าใจ 9 Archetype ของการดึงดูดและชักจูง


Archetype การดึงดูดทั้ง 9 ประเภทของ Greene แต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะและกลยุทธ์ที่ทำให้มันมีประสิทธิภาพในบริบทที่แตกต่างกัน นี่คือภาพรวมโดยย่อ:


1.The Siren: โดดเด่นด้วยการมีเสน่ห์และความลึกลับ Siren ใช้ความงามและปริศนาในการดึงดูดผู้คนรอบข้าง

2.The Rake: ขับเคลื่อนด้วยความหลงใหล Rake ไม่เคยหยุดยั้งในการแสวงหาสิ่งที่เขาต้องการ

3.The Ideal Lover: Archetype นี้มองถึงเป้าหมายที่ต้องการอย่างสมบูรณ์แบบ

4.The Dandy: Dandy มีเสน่ห์ผ่านความคลุมเครือและความไม่เป็นไปตามมาตรฐานสังคม

5.The Natural: ด้วยความไร้เดียงสาเหมือนเด็ก Natural ทำให้ผู้อื่นละทิ้งการกลไกการป้องกันตัวด้วยทัศนคติที่สนุกสนานและไม่ยึดติด

6.The Coquette: เจ้าแห่งการดึงดูดที่ทำให้ผู้อื่นต้องการอยู่ใกล้พวกเขามากขึ้นอยู่เสมอ

7.The Charmer: มีความชำนาญในการเข้าสังคมและมีน้ำใจ Charmer ชนะใจผู้คนด้วยความอบอุ่นและความใส่ใจ

8.The Charismatic: ความมั่นใจและพลังออร่าทำให้ Charismatic โดดเด่นและดึงดูดผู้คน

9.The Star: Stars ผสมผสานความธรรมดากับความพิเศษ ทำให้พวกเขาทั้งน่าสนใจและโดดเด่น


The Siren: พลังแห่งการดึงดูดทางเพศ


Archetype ของ Siren ใช้ความงามและความลึกลับในการดึงดูดความสนใจ ในสถานการณ์การทำงาน นี่อาจแปลเป็นการดึงดูดผู้ฟังในการนำเสนอหรือการเจรจาต่อรอง ด้วยการปรับสมดุลระหว่างเสน่ห์และความเป็นมืออาชีพ Sirens สามารถโน้มน้าวการตัดสินใจและผลลัพธ์ได้อย่างละเอียดอ่อนแต่มีประสิทธิภาพ


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Sirens สามารถใช้การปรากฏตัวที่ดึงดูดใจของพวกเขาในการดึงดูดความสนใจในที่ประชุม ทำให้ความคิดของพวกเขาดูน่าสนใจและมีอิทธิพลในการตัดสินใจสำคัญๆ


The Rake: ความหลงใหลและการแสวงหาอย่างไม่หยุดยั้ง


Rakes มีลักษณะเด่นด้วยความหลงใหลและความไม่หยุดยั้งในการแสวงหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ พลังงานและความมุ่งมั่นที่ไม่ลดละของพวกเขาสามารถเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในสถานที่ทำงาน ซึ่งความกระตือรือร้นและพลังงานมักจะแปลเป็นผลการปฏิบัติงานที่สูงและแรงบันดาลใจให้กับทีม


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Rakes โดดเด่นในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความพยายามอย่างไม่ลดละ ความสามารถในการไม่ถูกขัดขวางโดยอุปสรรคทำให้พวกเขามีค่าในบทบาทที่ต้องการความทนทาน เช่น การขาย การจัดการโครงการ หรือการเป็นผู้นำ


The Ideal Lover: การสร้างจินตนาการ


จุดแข็งของ The Ideal Lover อยู่ที่ความสามารถในการกลายเป็นสิ่งที่คนอื่นต้องการ ในโลกธุรกิจ Archetype นี้สามารถปรับตัวให้เหมาะสมกับความต้องการและความคาดหวังเฉพาะของลูกค้าหรือเพื่อนร่วมงาน ทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพสูงในบทบาทที่ต้องการการปรับแต่งและการบริการลูกค้า


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Ideal Lovers สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและภักดีโดยการปรับตัวให้เข้ากับบุคลิกที่ผู้รับบริการหรือทีมงานต้องการ ความสามารถในการสร้างความพึงพอใจให้กับผู้อื่นทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในบทบาทที่ต้องการการติดต่อกับลูกค้า


The Dandy: เสน่ห์และความคลุมเครือ


Dandies เติบโตได้ดีในความคลุมเครือและด้วยเสน่ห์ ในสถานที่ทำงาน Archetype นี้สามารถนำความคิดสร้างสรรค์และการคิดนอกกรอบมาสู่ทีม ทำให้พวกเขามีคุณค่าต่ออุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเอกลักษณ์


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: ด้วยการโดดเด่นและนำเสนอมุมมองที่ไม่เหมือนใคร Dandies สามารถสร้างแรงบันดาลใจและสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่สร้างสรรค์ ความสามารถในการท้าทายความคิดทั่วไปสามารถนำไปสู่การค้นพบที่ก้าวหน้าในกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือกลยุทธ์ทางการตลาด


The Natural: การดึงดูดแบบไร้เดียงสาและสนุกสนาน


Naturals ใช้ความไร้เดียงสาและความสนุกสนานของพวกเขาเพื่อสร้างความรู้สึกสบายและเปิดกว้าง ในสถานที่ทำงาน พวกเขาสามารถนำเสนอมุมมองใหม่และเสน่ห์ที่ทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกับทีมและการเจรจาลูกค้า


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Naturals นำแนวคิดสร้างสรรค์และความสนุกสนานในการแก้ปัญหา ความสามารถในการลดความเครียดและสร้างความไว้วางใจอย่างรวดเร็วทำให้พวกเขาเหมาะสมในการทำงานเป็นทีมและการเจรจากับลูกค้า


The Coquette: เจ้าแห่งการดึดดูด


Coquettes เป็นผู้เชี่ยวชาญในการสร้างความคาดหวังในเชิงบวก ในโลกธุรกิจ นี่สามารถใช้ในการสร้างความตื่นเต้นให้กับโครงการหรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่โดยการเปิดเผยข้อมูลอย่างมีกลยุทธ์และการทำผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้มีความสนใจ


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Coquettes อาจเข้าใจจิตวิทยาและความต้องการของผู้คน สามารถจัดการความคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมข้อมูลและการส่งมอบในเวลาที่เหมาะสม


The Charmer: การชนะใจด้วยความเมตตา


Charmers มีความสามารถในการทำให้ผู้อื่นรู้สึกมีคุณค่าและได้รับความสนใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรงพลังในทุกสภาพแวดล้อมการทำงาน ความอบอุ่นและความใส่ใจของพวกเขาสามารถสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งและขจัดความขัดแย้ง ทำให้พวกเขาเหมาะสมในบทบาทการเป็นผู้นำและทรัพยากรมนุษย์


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Charmers โดดเด่นในบทบาทที่ต้องการการทูตและการจัดการความสัมพันธ์ ความสามารถในการทำให้ผู้อื่นรู้สึกได้รับฟังและมีคุณค่าช่วยส่งเสริมความรู้สึกร่วมและความร่วมมือ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเป็นผู้นำทีมและการจัดการลูกค้า


The Charismatic: ออร่าและการชักชวน


Charismatics มีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนด้วยความมั่นใจและออร่าที่โดดเด่น ในสถานที่ทำงาน พวกเขาสามารถใช้การปรากฏตัวสร้างบรรยากาศในที่ทำงาน เพื่อเป็นผู้นำและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น ทำให้พวกเขาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติที่สามารถระดมทีมและขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงได้


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Charismatics เป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพสูงในบทบาทการเป็นผู้นำ ซึ่งการเป็นผู้นำที่เป็นธรรมชาติและความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจทำให้ทีมมุ่งมั่นสู่เป้าหมายที่สูงส่ง การมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและการแสดงออกที่มั่นใจมักจะขับเคลื่อนโครงการให้ประสบความสำเร็จ


The Star: ความน่าดึงดูดใจและความลึกลับ


Stars ดึงดูดใจด้วยการผสมผสานความธรรมดากับความพิเศษ ในบริบทการทำงาน นี่อาจหมายถึงการสร้างแบรนด์หรือบุคลิกภาพที่ไม่เหมือนใครซึ่งทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจและน่าสนใจ ทำให้พวกเขามีอิทธิพลในบทบาทที่ต้องการการพูดในที่สาธารณะหรือการสร้างแบรนด์ส่วนตัว


จุดแข็งในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน: Stars สามารถใช้การผสมผสานความพิเศษและความสามารถในการเชื่อมต่อกับผู้อื่นเพื่อเป็นบุคคลสำคัญภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำทางความคิดหรือการจัดการลูกค้า ซึ่งบุคลิกภาพของพวกเขาจะเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์และทีม


ข้อพิจารณาด้านจริยธรรมและข้อควรระวัง


การดึงดูดในบริบทใด ๆ เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เริ่มจากการดึงดูดใจไปจนถึงการสร้างอิทธิพลหรือควบคุม อย่างไรก็ตาม การรักษาสมดุลกับข้อพิจารณาด้านจริยธรรมเป็นสิ่งสำคัญ การดึงดูดไม่ควรข้ามเส้นเข้าสู่การบังคับหรือการบงการ; มันควรจะเกี่ยวกับประโยชน์ร่วมกันและการเคารพซึ่งกันและกัน


คำถามที่พบบ่อย


คนสามารถแสดงออกในหลาย ๆ Archetype ได้หรือไม่?

  • ได้ หลายคนแสดงลักษณะของหลาย Archetype ขึ้นอยู่กับสถานการณ์


The Art of Seduction นำไปใช้กับความสัมพันธ์ในยุคปัจจุบันได้อย่างไร?

  • หลักการเหล่านี้สามารถปรับใช้ได้ทั้งในความสัมพันธ์ส่วนตัวและในสภาพแวดล้อมทางการทำงาน โดยเน้นที่การมีอิทธิพลและการดึงดูด


การดึงดูดเกี่ยวข้องกับโรแมนติกเสมอหรือไม่?

  • ไม่ การดึงดูดในกรอบของ Greene ครอบคลุมทุกด้านของชีวิต รวมถึงการทำงาน


ขอบเขตทางจริยธรรมคืออะไร?

  • การใช้เสน่ห์ดึงดูดควรเคารพในความเป็นอิสระและความยินยอมของผู้อื่น โดยหลีกเลี่ยงการบงการเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน


บทสรุป


การเข้าใจและนำ 9 Archetype การดึงดูดจาก The Art of Seduction มาใช้สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่ทรงพลังในการทำความเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์และการมีอิทธิพล ไม่ว่าจะเป็นในความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือในสถานที่ทำงาน ด้วยการรับรู้ถึง Archetype เหล่านี้และจุดแข็งของพวกเขา คุณสามารถนำไปปรับใช้ทางสังคม และนำไปหางานด้วย Jobs จาก Jobcadu ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีจริยธรรม นอกจากนั้นยังมีแบบทดสอบสำหรับผู้หญิงด้วยนะ มาทำความเข้าใจได้ที่ลิงก์นี้เลย Archetype Test สำหรับสาว ๆ มาดูและเข้าใจตัวตนของตัวเองในรูปแบบสาว ๆ


ลิงก์เพื่อศึกษาเพิ่มเติม


อาชีพที่เกี่ยวข้อง

Thumbnail for เสื้อสีมงคลปี 2569 ใส่แล้วดีทั้งด้านงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ มีสีอะไรมาดูกัน!

เสื้อสีมงคลปี 2569 ใส่แล้วดีทั้งด้านงาน การเงิน ความรัก และสุขภาพ มีสีอะไรมาดูกัน!

ปีใหม่ทั้งที ใคร ๆ ก็อยากเริ่มต้นด้วยพลังบวก  หนึ่งในเคล็ดลับที่หลายคนเชื่อว่าช่วยเสริมโชค คือ “การใส่เสื้อสีมงคล” เพราะนอกจากจะช่วยให้มั่นใจขึ้นแล้ว ยังถือเป็นพลังทางใจที่ดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเรื่อง งาน เงิน ความรัก หรือสุขภาพ ทำไมการเลือกสีเสื้อถึงช่วยเสริมดวง สีเป็นสิ่งที่มีพลังในตัวเอง ทั้งในแง่จิตวิทยาและความเชื่อทางโหราศาสตร์ การเลือกสีเสื้อให้เหมาะกับพลังของปี จะช่วยให้เรารู้สึกมั่นใจ สดใส และมีแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ โดยเฉพาะในปี 2569 นี้ ที่เป็นปีแห่ง “การเปลี่ยนแปลง” และ “การเติบโต” เสื้อสีมงคลประจำปี 2569 สีเสริมการงาน สีกรมท่า / สีเทา / สีขาว ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ เพิ่มพลังการสื่อสาร และดึงดูดโอกาสใหม่ ๆ ในสายอาชีพ เหมาะกับคนที่อยากเลื่อนตำแหน่ง หรือเริ่มงานใหม่ สีเสริมการเงิน สีเขียว / สีทอง / สีส้มอมชมพู สีแห่งความมั่งคั่ง การเจรจาต่อรอง และการหมุนเงินคล่อง ถ้าใส่วันสำคัญ เช่น วันปิดดีลหรือวันรับเงิน จะยิ่งเสริมพลังบวกให้กระเป๋าไม่แบนแน่นอน! สีเสริมความรัก สีชมพู / สีแดง / สีม่วงอ่อน เสริมเสน่ห์และพลังแห่งความรัก เหมาะทั้งคนมีคู่และโสด ช่วยให้เปิดใจ เจอคนที่ใช่ หรือปรับความสัมพันธ์ให้เข้าใจกันมากขึ้น สีเสริมสุขภาพ สีฟ้า / สีเขียวอ่อน / สีขาว ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะใครที่ทำงานหนักหรือพักผ่อนน้อย ควรใส่สีโทนอ่อนเพื่อเติมพลังชีวิต เคล็ดลับการใส่เสื้อสีมงคลให้ปัง เลือกสีให้ตรงกับ “เป้าหมายของวัน” เช่น ถ้าวันนี้ต้องพรีเซนต์งานใหญ่ → ใส่สีเสริมการงาน ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งตัว อาจแค่เลือก “เครื่องประดับ” หรือ “ผ้าพันคอ” สีมงคลก็ได้ ใส่ด้วยใจที่มั่นใจและคิดบวกที่สุด — เพราะพลังของใจคือสิ่งสำคัญที่สุด สรุป: เลือกเสื้อสีไหนดีในปี 2569 ปีนี้ “ใส่สีที่ชอบ แล้วทำสิ่งที่ใช่” คือคาถาแห่งความสำเร็จ สีเสื้อมงคลเป็นเพียง ตัวช่วยทางใจ ที่ทำให้เรารู้สึกพร้อมและมั่นใจขึ้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การลงมือทำอย่างตั้งใจ และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เริ่มต้นปีใหม่ด้วยโอกาสใหม่ ๆ ถ้าคุณกำลังมองหางานที่ใช่และอยากเติบโตในสายอาชีพ หางานที่ตรงกับตัวคุณตอนนี้ได้เลยที่ www.jobcadu.com เพราะ “สีเสื้อช่วยเสริมดวงได้ แต่การลงมือหางาน คือสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง”

Nov 18, 2025
Thumbnail for ESFJ (นักให้คำปรึกษา): บุคลิกภาพที่อบอุ่นและใส่ใจทุกคน

ESFJ (นักให้คำปรึกษา): บุคลิกภาพที่อบอุ่นและใส่ใจทุกคน

ESFJ คืออะไร? ESFJ ย่อมาจาก Extraverted (E), Sensing (S), Feeling (F), Judging (J) เป็นหนึ่งใน 16 บุคลิกภาพจากแบบทดสอบ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) ที่เรียกว่า "The Consul" หรือ "นักให้คำปรึกษา" คนกลุ่มนี้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ที่มีจิตใจอบอุ่น ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และมีความรับผิดชอบสูง พวกเขาใส่ใจความรู้สึกของคนรอบข้าง และมักจะเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในทีมหรือกลุ่มเป็นมิตรและผ่อนคลาย ESFJ คิดเป็นประมาณ 12% ของประชากรทั่วโลก ทำให้เป็นหนึ่งในบุคลิกภาพที่พบได้บ่อยที่สุด โดยเฉพาะในผู้หญิง บุคลิกภาพหลักของ ESFJ 1. มนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม ESFJ เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย ชอบสังสรรค์ และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเพื่อนร่วมงาน พวกเขาเป็นคนฟังที่ดี และมักจะเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นเมื่อมีใครในทีมไม่สบายใจ 2. ใส่ใจรายละเอียดและความต้องการของผู้อื่น พวกเขาชอบดูแลคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นการจำวันเกิดเพื่อนร่วมงาน การจัดงานปาร์ตี้ หรือการให้กำลังใจเมื่อใครสักคนประสบปัญหา 3. รักความเป็นระเบียบและโครงสร้าง ESFJ ชอบแผนงานที่ชัดเจน มีขั้นตอน และคาดการณ์ได้ พวกเขาทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีกฎเกณฑ์และความคาดหวังที่ชัดเจน 4. ซื่อสัตย์และรับผิดชอบ เมื่อ ESFJ รับปากอะไรไว้ พวกเขาจะทำให้สำเร็จ พวกเขาเป็นคนที่เชื่อถือได้และมักจะทำงานเกินความคาดหวังเพื่อให้ทุกคนพอใจ 5. ต้องการการยอมรับ ESFJ ต้องการรู้ว่าความพยายามของพวกเขาได้รับการชื่นชม การได้รับคำขอบคุณหรือคำชมเชยเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับพวกเขา จุดแข็งของ ESFJ ในการทำงาน 1.สร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี ESFJ เป็นคนที่ทำให้ออฟฟิศมีชีวิตชีวา พวกเขาชอบจัดกิจกรรมสร้างทีม จัดงานเลี้ยง และทำให้ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม 2.เชี่ยวชาญการทำงานเป็นทีม พวกเขาทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดีมาก รู้จักประสานงาน ฟังความคิดเห็น และหาทางประนีประนอมเพื่อให้ทุกคนมีความสุข 3. ใส่ใจรายละเอียดและมีความรับผิดชอบสูง ESFJ ไม่มีคำว่า "พอดี" พวกเขาทำงานอย่างละเอียดถี่ถ้วนและตรวจสอบทุกอย่างก่อนส่งมอบ 4.บริการลูกค้าระดับเทพ ด้วยความเอาใจใส่และความอดทน ESFJ เหมาะกับงานที่ต้องดูแลลูกค้าหรือให้คำปรึกษา 5.ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และนโยบายได้ดี พวกเขาเคารพโครงสร้างองค์กรและทำตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด จุดที่ ESFJ ควรระวัง 1. ยากที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ESFJ ชอบความมีระเบียบ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือแผนเปลี่ยนบ่อย พวกเขาอาจรู้สึกเครียดหรือไม่สบายใจ 2. รับคำวิจารณ์ได้ยาก เนื่องจาก ESFJ ใส่ใจความรู้สึกของตัวเองและผู้อื่นมาก การถูกวิจารณ์อาจทำให้พวกเขารู้สึกเจ็บปวดหรือท้อแท้ แม้ว่าจะเป็นฟีดแบ็กเชิงสร้างสรรค์ก็ตาม 3.ใส่ใจความคิดเห็นของผู้อื่นมากเกินไป ESFJ ต้องการให้ทุกคนพอใจ บางครั้งอาจทำให้พวกเขาตัดสินใจผิดพลาดหรือลืมดูแลความต้องการของตัวเอง 4.ยากที่จะปฏิเสธ พวกเขามักจะรับงานมากเกินไปเพราะไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ส่งผลให้เกิดความเหนื่อยล้าหรือหมดไฟได้ 5.คิดเชิงปฏิบัติจนขาดความคิดสร้างสรรค์ ESFJ ชอบทำตามแบบแผนที่ได้ผลแล้ว อาจลังเลที่จะลองวิธีใหม่ๆ หรือคิดนอกกรอบ อาชีพที่เหมาะกับ ESFJ ESFJ เหมาะกับงานที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ทำงานร่วมกับทีม และใช้ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: ด้านสุขภาพและการดูแล พยาบาล / ผู้ช่วยพยาบาล นักกายภาพบำบัด / นักกิจกรรมบำบัด เภสัชกร ผู้ดูแลผู้สูงอายุหรือเด็ก ด้านธุรกิจและการจัดการ HR / ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล Event Planner / ผู้จัดงาน Customer Success Manager Office Manager / ผู้จัดการสำนักงาน ด้านการศึกษา ครู / อาจารย์ (โดยเฉพาะระดับประถมและมัธยม) ที่ปรึกษานักเรียน / School Counselor ครูฝึกสอน / โค้ช ด้านการขายและบริการ ที่ปรึกษาการขาย / Sales Consultant เจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พนักงานต้อนรับ / Receptionist Real Estate Agent ด้านสังคมและชุมชน นักสังคมสงเคราะห์ ผู้จัดการโครงการพัฒนาชุมชน Fundraiser / นักระดมทุน PR Officer / เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ วิธีทำงานร่วมกับ ESFJ สำหรับหัวหน้าทีม ให้คำชมและขอบคุณบ่อยๆ – แสดงความขอบคุณในสิ่งที่พวกเขาทำให้ (ESFJ จะมีกำลังใจขึ้นมาทันที) ให้แผนงานที่ชัดเจน – หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหันหรือไม่บอกเหตุผล ใช้ภาษาที่อ่อนโยนเมื่อมีการให้ฟีดแบ็ก – เน้นสิ่งที่ทำได้ดีก่อน แล้วค่อยพูดถึงสิ่งที่ต้องปรับปรุง เปิดโอกาสให้ทำงานเป็นทีม – ESFJ ทำงานได้ดีเมื่ออยู่ในทีมที่เข้ากันได้ดีเเละเป็นมิตร สำหรับเพื่อนร่วมงาน รับฟังและให้ความสำคัญ – ESFJ จะรู้สึกมีคุณค่าเมื่อได้รับการฟัง แสดงความขอบคุณ – คำว่า "ขอบคุณ" หรือ "เก่งมาก" จะช่วยทำให้ ESFJ มีกำลังใจมากขึ้น หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ต่อหน้าคนอื่น – ควรพูดคุยส่วนตัวถ้ามีข้อติชม สำหรับตัว ESFJ เอง เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ – ไม่จำเป็นต้องทำให้ทุกคนพอใจตลอดเวลา รับฟีดแบ็กเชิงสร้างสรรค์ – จำไว้ว่าคำวิจารณ์ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ดี แต่เป็นโอกาสในการเติบโต ให้เวลากับตัวเอง – การพักผ่อนและดูแลตัวเองก็สำคัญเท่ากับการดูแลผู้อื่น ลองเปิดใจกับสิ่งใหม่ – ความยืดหยุ่นและการทดลองกับสิ่งใหม่อาจนำไปสู่การค้นพบสิ่งดีๆ MBTI ที่เข้ากันได้ดีกับ ESFJ ISFP, INFP, ESFP, ESTJ — เข้าใจในด้านอารมณ์และร่วมมือกันได้ดี INTP, ISTP — แม้ต่างกันแต่เสริมกันได้ หากเปิดใจเรียนรู้วิธีคิดของกันและกัน MBTI ที่อาจเข้ากันยาก: INTJ, ENTJ — เพราะมีแนวทางที่เป็นเหตุผลและเน้นประสิทธิภาพมากกว่าอารมณ์ (แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้ แค่ต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารกันตรงไปตรงมาและเข้าใจความต่างให้มากขึ้น) ESFJ คือหัวใจของทีมและองค์กร พวกเขาเป็นคนที่ทำให้สถานที่ทำงานรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง และมีประสิทธิภาพ ด้วยความรับผิดชอบสูง ความใส่ใจในรายละเอียด และความปรารถนาที่จะช่วยเหลือผู้อื่น ESFJ จึงเป็นบุคลิกภาพที่องค์กรทุกแห่งต้องการ แม้จะมีจุดอ่อนบางอย่าง เช่น ความยากในการปฏิเสธหรือรับคำวิจารณ์ แต่เมื่อ ESFJ เรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองและสร้างสมดุลระหว่างการให้กับการรับ พวกเขาจะกลายเป็นผู้นำและเพื่อนร่วมงานที่มีคุณค่าอย่างแท้จริง อยากรู้ว่าคุณเป็นบุคลิกภาพแบบไหน?  ทำแบบทดสอบ MBTI ที่ Jobcadu เพื่อค้นพบจุดแข็งของคุณ และหางานที่เหมาะกับบุคลิกภาพของคุณจริงๆ เริ่มต้นค้นหาอาชีพในฝันของคุณวันนี้

Nov 11, 2025
Thumbnail for Extrovert คืออะไร มาดูวิธีการทำงานร่วมกับ Extrovert ให้มีประสิทธิภาพกัน

Extrovert คืออะไร มาดูวิธีการทำงานร่วมกับ Extrovert ให้มีประสิทธิภาพกัน

ในโลกการทำงานยุคนี้ เราต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานหลากหลายสไตล์ ทั้งคนเงียบ สุขุม ไปจนถึงคนพลังล้น ชอบเข้าสังคม หนึ่งในบุคลิกยอดฮิตที่หลายคนพูดถึงคือ “Extrovert” คนที่มักเป็นศูนย์กลางของทีมและสร้างสีสันในที่ทำงานอยู่เสมอ แล้วเขามีข้อดีหรือความท้าทายอะไรบ้าง? ไปหาคำตอบกัน! ในโลกของการทำงานปัจจุบัน เราต่างต้องเจอกับคนหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นคนเงียบๆ สุขุม หรือคนที่ชอบคุย ชอบเข้าหาผู้อื่น   ซึ่งอีกหนึ่งบุคลิกยอดฮิตที่เรามักพบในที่ทำงานคือ "Extrovert"  คนที่เต็มไปด้วยพลัง สนุกกับการเข้าสังคม และมักเป็นศูนย์กลางของทีม แต่รู้ไหม? การทำงานกับคน Extrovert ก็สร้างผลกระทบเชิงบวกได้หากเราเข้าใจธรรมชาติของพวกเขาและรู้วิธีสื่อสารให้เหมาะสม เราจะค้นพบว่า “พลังของ Extrovert” สามารถกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ Extrovert คืออะไร? Extrovert คือบุคคลที่มีพลังงานและแรงบันดาลใจจากการ “ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน” พวกเขาชอบพูดคุย แบ่งปันความคิดเห็น และมักจะมีความมั่นใจเมื่อต้องทำงานในสังคมหรือทำงานร่วมกับคนอื่น ลักษณะนิสัยของคน Extrovert ชอบเข้าสังคม พบปะผู้คนใหม่ ๆ มีความมั่นใจในการพูดในที่สาธารณะ ตัดสินใจเร็ว และมักแสดงออกทางอารมณ์อย่างชัดเจน ได้พลังจากการอยู่ในกลุ่ม มากกว่าการอยู่คนเดียว มักชอบแสดงความคิดเห็น และรู้สึกดีเมื่อได้รับการตอบสนอง มองโลกในแง่ดีและพร้อมลุย คนที่มีบุคลิกแบบนี้มักจะเป็น “คนจุดประกายพลัง” ของทีม ช่วยให้บรรยากาศการทำงานไม่น่าเบื่อ และทำให้การประชุมหรือโปรเจกต์มีสีสันอยู่เสมอ MBTI ที่เป็น Extrovert ในแบบทดสอบ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) ตัวอักษรตัวแรก “E” หมายถึง Extroversion MBTI ที่เป็น Extrovert ได้แก่: ENTJ – ผู้นำโดยธรรมชาติ ชอบวางแผน คิดกลยุทธ์ ENFP – นักสร้างแรงบันดาลใจ มีความคิดสร้างสรรค์สูง ESFP – ชอบความสนุกสนาน มีเสน่ห์ และเป็นคน “ทำให้ทีมยิ้ม” ESTJ – คนมีระบบระเบียบ รักความชัดเจน และมุ่งผลลัพธ์ ENFJ – ผู้นำทางอารมณ์ เข้าใจคนรอบข้างเก่ง ESFJ – คนใจดี รักการช่วยเหลือ และใส่ใจความรู้สึกคนอื่น ข้อดีของการทำงานกับคน Extrovert สร้างบรรยากาศทีมที่สดใส: พวกเขามักเป็นคนเริ่มต้นการสนทนา ทำให้ทีมรู้สึกเป็นกันเองและเปิดใจในการทำงานร่วมกัน สื่อสารตรงไปตรงมา: Extrovert ไม่อ้อมค้อมและมักกล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งช่วยให้ทีมเข้าใจปัญหาและหาทางแก้ได้รวดเร็ว มีพลังในการขับเคลื่อนโปรเจกต์: เมื่อทีมเริ่มเหนื่อย คน Extrovert มักเป็นคนปลุกพลังและสร้างแรงจูงใจให้ทุกคนกลับมามีไฟอีกครั้ง สร้าง Connection ได้ดี: ด้วยความที่ชอบเข้าสังคม พวกเขามักมีเครือข่ายกว้าง ช่วยให้ทีมได้เจอโอกาสใหม่ ๆ เช่น พาร์ทเนอร์ ลูกค้า หรือโอกาสทางธุรกิจ ความท้าทายเมื่อทำงานร่วมกับ Extrovert แม้พลังของ Extrovert จะเป็นข้อดี แต่บางครั้งก็อาจกลายเป็น “แรงเกินพอดี” ได้หากไม่รู้จักบาลานซ์ พูดเยอะจนคนอื่นไม่มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ตัดสินใจเร็วเกินไป โดยยังไม่คิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ชอบทำหลายอย่างพร้อมกันจนขาดสมาธิในบางช่วง บางครั้งอาจเผลอ “กลบเสียง” ของคน Introvert ที่พูดน้อยกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้าเรารู้จัก “เข้าใจธรรมชาติ” และใช้วิธีสื่อสารให้เหมาะกับพวกเขา วิธีทำงานร่วมกับ Extrovert ให้มีประสิทธิภาพ 1. เปิดใจฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น อย่าปิดกั้นเมื่อพวกเขาแสดงความคิดเห็นเยอะ เพราะสำหรับ Extrovert “การพูดคือการคิด” การฟังอย่างตั้งใจและร่วมแลกเปลี่ยน จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการยอมรับ และจะเปิดรับความคิดเห็นของคุณมากขึ้นด้วย 2. ใช้ทักษะการเข้าสังคมของเขาให้เป็นประโยชน์ ให้พวกเขาช่วยนำเสนอโปรเจกต์ ติดต่อพาร์ทเนอร์ หรือสร้างบรรยากาศในการประชุม Extrovert จะโดดเด่นที่สุดเมื่อได้อยู่ในพื้นที่ที่ต้อง “สื่อสารกับคน” 3. สร้างสมดุลในการสื่อสาร บางครั้งการพูดคุยของคน Extrovert อาจเร็วหรือยาวเกินไป คุณสามารถช่วย “เบรก” ด้วยการสรุปใจความสำคัญ หรือเสนอให้พักก่อนกลับมาคุยใหม่ เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและไม่หลุดประเด็น เคล็ดลับการสร้างทีมที่มีทั้ง Extrovert และ Introvert ให้ Extrovert นำเสนอ พูดคุย ประสานงาน และสร้างบรรยากาศ ให้ Introvert คิดเชิงลึก วางแผน วิเคราะห์ และเก็บรายละเอียด ใช้การประชุมแบบผสม: มีทั้งการพูดคุยสด และการเขียนความคิดเห็นในช่องทางออนไลน์ สร้างวัฒนธรรมที่ให้ “พื้นที่เท่ากัน” ในการแสดงความคิดเห็น เมื่อทั้งสองสไตล์ทำงานร่วมกันอย่างเข้าใจ ทีมจะได้ทั้ง พลัง ความคิดสร้างสรรค์ และความรอบคอบ การทำงานกับคน Extrovert ไม่ได้แปลว่าคุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เสียงดังหรือเข้าสังคมเก่งเหมือนพวกเขา สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่า “พลังของ Extrovert” มาจากการเชื่อมโยงกับคนรอบตัว หากเรารู้จักใช้พลังนั้นให้ถูกจุด ทีมจะเติบโตได้อย่างสมดุล สนุก และมีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวัน เพราะสุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเราจะเป็น Extrovert หรือ Introvert  การทำงานที่ดี คือการ “เคารพความต่าง” และ “เรียนรู้ที่จะเติบโตไปด้วยกัน” พร้อมหางานที่เหมาะกับบุคลิกของคุณแล้วหรือยัง? 🔗 ค้นหางานที่ใช่สำหรับคุณได้ที่ Jobcadu.com

Oct 20, 2025
Thumbnail for INFJ นักแก้ปัญหา MBTI ตัวแรร์ที่องค์กรต้องการตัว

INFJ นักแก้ปัญหา MBTI ตัวแรร์ที่องค์กรต้องการตัว

นักแก้ปัญหาเป็นหนึ่งในทักษะในการทำงานที่มีความสำคัญ โดยทักษะนี้ยังสามารถนำทางผู้อื่นไปสู่ทางออกได้? ซึ่งถือเป็นบุคลิกภาพที่หายากที่สุดในแบบทดสอบ MBTI (Myers-Briggs Type Indicator) INFJ ไม่ได้ไม่แค่นั่งเงียบ ๆ แต่ยังเป็นนักแก้ปัญหาที่ฝังอยู่ใน DNA อย่างเป็นธรรมชาติที่องค์กรต้องการสุด ๆ INFJ คืออะไร INFJ ย่อมาจาก Introversion, Intuition, Feeling, Judging พวกเขาคือผู้ให้คำปรึกษา (The Advocate) ซึ่ง MBTI ชนิดนี้มักถูกมองว่าเป็นคนลึกลับและเข้าใจยากในตอนแรก แต่เมื่อรู้จักแล้วจะพบว่าพวกเขามีโลกภายในที่ซับซ้อนและลึกซึ้ง INFJ นิสัยเป็นยังไง เข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง (Empathic): พวกเขามีความสามารถในการอ่านและเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่นได้ดีเยี่ยม มีวิสัยทัศน์ (Visionary): INFJ ชอบคิดถึงอนาคตและมองเห็นความเป็นไปได้ต่างๆ ที่คนอื่นอาจมองข้ามไป มุ่งมั่นและมีอุดมการณ์ (Idealistic and Determined): เมื่อเชื่อมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง พวกเขาจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อทำให้มันเป็นจริง มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative): ชอบใช้จินตนาการในการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ เป็นนักแก้ปัญหาโดยธรรมชาติ (Natural Problem-Solvers): ด้วยความสามารถในการมองเห็นภาพรวมและเจาะลึกรายละเอียด ทำให้พวกเขาสามารถหาทางออกที่ยั่งยืนได้ รักความสมบูรณ์แบบ (Perfectionistic): มีมาตรฐานสูงสำหรับตนเองและงานที่ทำ INFJ จุดเด่น จุดอ่อน จุดเด่น (Strengths): เป็นที่ปรึกษาและผู้ฟังที่ดีเยี่ยม: เข้าใจความรู้สึกผู้อื่นและให้คำแนะนำที่มีคุณค่า มีวิสัยทัศน์กว้างไกล: มองเห็นปัญหาและโอกาสจากมุมมองที่แตกต่าง มีความมุ่งมั่นและแรงจูงใจสูง: เมื่อตัดสินใจแล้วจะลงมือทำอย่างจริงจัง มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสูง: สามารถเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้ในระดับอารมณ์ มีความคิดสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาได้ดี: หาทางออกที่แปลกใหม่และมีประสิทธิภาพ จุดอ่อน (Weaknesses): Sensitive มากเกินไป: อาจจะรับความรู้สึกเชิงลบจากคนรอบข้างมาไว้กับตัวมากเกินไป แบกรับความรับผิดชอบมากเกินไป: มีแนวโน้มที่จะรับภาระของผู้อื่นมาแบกไว้ อาจจะเก็บตัวมากเกินไป: ต้องการเวลาในการชาร์จพลังงานและมักหลีกเลี่ยงการเข้าสังคมขนาดใหญ่ มีแนวโน้มที่จะ Burnout: ด้วยความทุ่มเทและใส่ใจมากเกินไป อาจทำให้หมดไฟได้ง่าย ยากที่จะเปิดใจ: แม้จะเข้าใจผู้อื่น แต่ก็ยากที่จะให้คนอื่นเข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง ทำไม INFJ ถึงหายาก INFJ เป็นบุคลิกภาพที่หายากที่สุด โดยมีสัดส่วนประมาณ 1-2% ของประชากรทั้งหมด สาเหตุที่พวกเขาหายากอาจมาจากลักษณะนิสัยที่ผสมผสานกันอย่างเป็นเอกลักษณ์: พวกเขามีทั้งความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (Feeling) แต่ก็เป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ (Intuition) ที่มีวิสัยทัศน์ไกล นอกจากนี้ยังเป็น Introvert ที่ชอบการวางแผนและจัดระเบียบ (Judging) ซึ่งการรวมกันของลักษณะเหล่านี้ทำให้ INFJ โดดเด่นและไม่เหมือนใคร INFJ IQ สูงไหม แม้ว่า MBTI จะไม่ได้วัดระดับ IQ โดยตรง แต่ลักษณะนิสัยของ INFJ ที่เป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์, มีวิสัยทัศน์กว้างไกล, และความสามารถในการเข้าใจความซับซ้อนของมนุษย์ มักบ่งชี้ถึง ศักยภาพทางสติปัญญาที่สูงโดยเฉพาะในด้าน EQ (Emotional Quotient) และ AQ (Adversity Quotient)  ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในการแก้ปัญหาและการทำงานร่วมกับผู้อื่น INFJ อาชีพ: องค์กรต้องการตัวมากเพราะเป็นนักแก้ปัญหา ด้วยความสามารถในการเข้าใจผู้อื่น, การมองเห็นภาพรวม, และการคิดเชิงกลยุทธ์ ทำให้ INFJ เป็นที่ต้องการอย่างมากในหลายองค์กร พวกเขาไม่ได้แค่มองเห็นปัญหา แต่ยังสามารถหาทางออกที่ยั่งยืนและมีมนุษยธรรม อาชีพที่เหมาะกับ INFJ มักจะเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้อื่น การสร้างสรรค์ และการทำงานที่มีผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม: นักจิตวิทยา/ที่ปรึกษา (Psychologist/Counselor): ความสามารถในการเข้าใจผู้อื่นและให้คำแนะนำที่ดี นักสังคมสงเคราะห์ (Social Worker): ความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและพัฒนาสังคม ครู/อาจารย์ (Teacher/Professor): ความรักในการแบ่งปันความรู้และสร้างแรงบันดาลใจ นักเขียน/บรรณาธิการ (Writer/Editor): ความคิดสร้างสรรค์และการสื่อสารที่ลึกซึ้ง นักวิจัย (Researcher): ความชอบในการเจาะลึกข้อมูลและค้นหาความจริง นักกลยุทธ์/ที่ปรึกษาองค์กร (Strategist/Organizational Consultant): การมองเห็นภาพรวมและนำเสนอทางออก ศิลปิน/นักออกแบบ (Artist/Designer): การแสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์และอุดมการณ์ INFJ ความรัก และ INFJ Compatibility INFJ ความรัก มักเป็นคนจริงจังและทุ่มเท พวกเขามองหาความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและมีความหมาย ไม่ใช่แค่ผิวเผิน INFJ ต้องการคู่ชีวิตที่สามารถเข้าใจโลกภายในของพวกเขา และเปิดใจพูดคุยถึงความรู้สึกและความคิดที่ซับซ้อนได้ INFJ Compatibility: INFJ มักจะเข้ากันได้ดีกับบุคลิกภาพที่สามารถเติมเต็มซึ่งกันและกัน และมีความเข้าใจในความต้องการของ INFJ ได้แก่: ENFP (The Campaigner): มีความกระตือรือร้นและเปิดกว้าง ช่วยให้ INFJ รู้สึกสบายใจที่จะเปิดเผยตัวตน ENFJ (The Protagonist): มีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจผู้อื่นคล้ายกัน สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นได้ ENTP (The Debater): สามารถกระตุ้นความคิดของ INFJ และมองเห็นโลกในมุมมองใหม่ๆ INFJ-T คืออะไร? เมื่อคุณทำแบบทดสอบ MBTI อาจจะเจอคำว่า INFJ-T คำว่า "-T" ย่อมาจาก Turbulent ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะที่ อ่อนไหวต่อความเครียดมากกว่า (More Stress-Sensitive) และ มีความต้องการการยอมรับจากภายนอกมากกว่า (More Externally-Motivated) INFJ-T อาจจะมีความกังวลสูงกว่าและต้องการการยืนยันจากผู้อื่นเพื่อสร้างความมั่นใจ ในขณะที่ INFJ-A (Assertive) จะมีความมั่นใจในตัวเองสูงกว่าและจัดการกับความเครียดได้ดีกว่า INFJ Characters และ INFJ Personality Test คุณอาจพบเห็นตัวละครในภาพยนตร์หรือวรรณกรรมที่มีบุคลิกภาพ INFJ มากมาย ซึ่งมักจะเป็นตัวละครที่มีความลึกซึ้ง มีวิสัยทัศน์ และมักจะช่วยเหลือผู้อื่น ตัวอย่างเช่น: Aragorn จาก The Lord of the Rings Jon Snow จาก Game of Thrones Dumbledore จาก Harry Potter (บางคนอาจจัดอยู่ใน ENTJ แต่มีหลายคุณสมบัติของ INFJ) J.K. Rowling (เชื่อกันว่าเป็น INFJ) หากอยากรู้ MBTI ของตัวเอง ทาง Jobcadu ก็มี MBTI Test แล้วนะ มาลองทำกันได้ที่นี่เลย >> MBTI Test INFJ Meaning: มากกว่าแค่ตัวอักษร 4 ตัว INFJ meaning ไม่ได้เป็นเพียงแค่การรวมกันของตัวอักษร 4 ตัว แต่เป็นการเปิดเผยถึงบุคลิกภาพที่มีความลึกซึ้ง, มีวิสัยทัศน์, และมีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเห็นอกเห็นใจ พวกเขาคือผู้ที่สามารถมองเห็นศักยภาพในตัวผู้อื่นและในโลกใบนี้ INFJ คือ นักแก้ปัญหา ที่ไม่เพียงแค่แก้ไขในระดับผิวเผิน แต่ยังเจาะลึกถึงรากของปัญหา เพื่อนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนและดีขึ้น INFJ จึงเป็นบุคลิกภาพที่พิเศษและทรงคุณค่าอย่างยิ่งในสังคมและในองค์กร ด้วยความสามารถในการเข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง, วิสัยทัศน์อันกว้างไกล, และความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง พวกเขาคือ ตัวเร่งให้เกิดการแก้ปัญหา ที่องค์กรทุกแห่งต้องการ ไม่ว่าคุณจะเป็น INFJ หรือกำลังทำงานร่วมกับ INFJ การทำความเข้าใจในบุคลิกภาพนี้จะช่วยให้เราเห็นคุณค่าและศักยภาพอันยิ่งใหญ่ที่พวกเขามีต่อโลกใบนี้

Aug 1, 2025
Thumbnail for Function Cognitive Test คืออะไร? มารู้จักตัวเองให้มากขึ้นผ่านแบบทดสอบกัน

Function Cognitive Test คืออะไร? มารู้จักตัวเองให้มากขึ้นผ่านแบบทดสอบกัน

ทำไมต้องรู้จักตนเอง? การเข้าใจตนเองเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญในการพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ เช่น การทำงาน ความสัมพันธ์ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน การเข้าใจว่าเรามีแนวโน้มคิด วิเคราะห์ และตัดสินใจอย่างไร จะช่วยให้เราสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างตรงจุด ซึ่งการรู้จักตนเองก็สามารถทำได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการปรึกษาแพทย์ การทำแบบทดสอบ MBTI, Ennegram Test และอื่น ๆ โดยการทำแบบทดสอบ Function Cognitive Test เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราเข้าใจตนเองได้ดีขึ้น Cognitive Function Test คืออะไร? Cognitive Function Test คือแบบทดสอบที่อิงกับแนวคิดของ Cognitive Functions ซึ่งเป็นกระบวนการที่สมองใช้ในการประมวลผลข้อมูล การตัดสินใจ และการตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแนวคิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักจิตวิทยาชื่อ Carl Jung โดยได้ระบุไว้ว่ามี Cognitive Functions ทั้งหมด 8 ประเภท โดยฟังก์ชันเหล่านี้เป็นตัวกำหนดลักษณะและวิธีคิดของบุคคลต่าง ๆ ซึ่งความแตกต่างของ Cognitive Function ในแต่ละบุคคลส่งผลให้เกิดบุคลิกภาพ 16 แบบที่อยู่ในระบบ MBTI ความแตกต่างระหว่าง Cognitive Functions กับ MBTI ทั่วไป MBTI เป็นแบบทดสอบที่นิยมใช้เพื่อจำแนกบุคลิกภาพออกเป็น 16 ประเภท โดยอาศัยตัวอักษร 4 ตัว เช่น INTJ, ESFP และ ENTP อย่างไรก็ตาม MBTI ใช้โครงสร้างที่ง่ายกว่าและอาจไม่ได้ลงลึกในเชิงการทำงานของสมอง ในขณะที่ Function Cognitive Test มุ่งเน้นไปที่การทำงานของ Cognitive Functions โดยตรง ซึ่งสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีคิดและการตัดสินใจของแต่ละบุคคลได้ละเอียดมากขึ้น ผลของแบบทดสอบของ Cognitive Functions แบบทดสอบ Cognitive Functions จะมีผลลัพธ์ 8 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่ 1.Introverted Thinking (Ti) & Extraverted Thinking (Te) Ti : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้จะวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดและให้ความสำคัญกับโครงสร้างของเหตุผลที่แม่นยำ จะไตร่ตรองข้อมูลก่อนตัดสินใจ โดยพยายามหาคำตอบที่ถูกต้องที่สุด Te : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้มีแนวทางคิดที่เป็นระบบและเน้นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรม 2.Introverted Feeling (Fi) & Extraverted Feeling (Fe) Fi : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้ตัดสินใจโดยอิงตามค่านิยมส่วนตัวและหลักคุณธรรมที่ตนเองยึดถือ ให้ความสำคัญกับความถูกต้องในมุมมองของตนเอง มากกว่าการทำตามมาตรฐานของสังคม Fe : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้คำนึงถึงอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นเป็นหลัก ให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และพยายามทำให้สภาพแวดล้อมรอบตัวกลมกลืนและเป็นที่ยอมรับของสังคม 3.Introverted Sensing (Si) & Extraverted Sensing (Se) Si: คนที่ได้ผลลัพธ์นี้มีแนวโน้มที่จะจดจำรายละเอียดจากอดีตและใช้ประสบการณ์เดิมเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ให้ความสำคัญกับโครงสร้างที่คุ้นเคยและความมั่นคงในชีวิต Se : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งรอบตัวอย่างรวดเร็ว ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ชื่นชอบความตื่นเต้นและการลงมือทำในทันที 4.Introverted Intuition (Ni) & Extraverted Intuition (Ne) Ni : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้สามารถมองเห็นภาพรวมและแนวโน้มในอนาคตได้อย่างแม่นยำ มีความสามารถในการวิเคราะห์เชิงลึกและคาดการณ์ผลลัพธ์ระยะยาวโดยเชื่อมโยงข้อมูลจากหลายแหล่ง Ne : คนที่ได้ผลลัพธ์นี้มีแนวคิดที่เปิดกว้างและชอบสำรวจไอเดียใหม่ ๆ และสามารถเชื่อมโยงแนวคิดต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้อย่างสร้างสรรค์ ตัวอย่างพฤติกรรมของแต่ละฟังก์ชัน คนที่มี Ti เด่น อาจชอบตั้งคำถามเกี่ยวกับหลักการและตรรกะของสิ่งต่าง ๆ คนที่มี Fe เด่น อาจพยายามสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานและดูแลความรู้สึกของเพื่อนร่วมงาน คนที่มี Ni เด่น อาจมีแนวคิดที่ลึกซึ้งและคาดการณ์แนวโน้มของอนาคตได้ดี คนที่มี Se เด่น อาจมีความสามารถในการสังเกตและปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว Function Cognitive Test ทำได้ที่ไหน? ปัจจุบันมีแหล่งทดสอบ Cognitive Functions ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น แบบทดสอบภาษาอังกฤษ แบบทดสอบภาษาไทย ตัวอย่างการนำผลทดสอบไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผลทดสอบของ Cognitive Functions จะช่วยให้เราสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้หลายด้าน เช่น ด้านการทำงาน คนที่มี Te (Extraverted Thinking) เด่นมักมีความสามารถในการบริหารจัดการและตัดสินใจบนพื้นฐานของเหตุผลและประสิทธิภาพ จึงเหมาะกับอาชีพอย่าง Project Manager หรือ Assistant Manager ในขณะที่คนที่มี Fi (Introverted Feeling) เด่นจะให้ความสำคัญกับคุณค่าภายในและอารมณ์ความรู้สึก เหมาะกับงานด้านศิลปะ การให้คำปรึกษา หรืองานที่เกี่ยวข้องกับจริยธรรม เช่น นักจิตวิทยาหรือนักออกแบบ ด้านการสื่อสาร คนที่มี Ne (Extraverted Intuition) เด่นจะมีไอเดียสร้างสรรค์และสามารถแลกเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ๆ ได้ดี เหมาะกับอาชีพนักการตลาด นักเขียน หรือที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์ ส่วนคนที่มี Si (Introverted Sensing) เด่นจะให้ความสำคัญกับข้อมูลที่แม่นยำ นำผลลัพธ์จากประสบการณ์ตนเองนำมาปรับใช้เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพให้ดีที่สุด เหมาะกับอาชีพนักบัญชี นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายเอกสาร นอกจากนี้ การเข้าใจ Cognitive Functions ของตนเองยังช่วยให้เราพัฒนาจุดแข็ง ปรับปรุงจุดอ่อน และเข้าใจผู้อื่นได้ดีขึ้น ทำให้สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากสนใจหางานที่เหมาะกับคุณ สามารถเข้าๆไปสมัครงานได้ที่ Job Portal เลย การทำแบบทดสอบ Function Cognitive Test เป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้เราเข้าใจตนเองได้ดีขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาทั้งด้านการทำงาน การสื่อสาร และการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น หากสนใจสำรวจตัวเองให้ลึกซึ้งขึ้น ลองทำแบบทดสอบดูก็อาจจะทำให้เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น และถ้าสนใจคอนเทนต์เพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคลิกภาพและการพัฒนาตนเอง สามารถติดตามได้ที่ Career Portal

Mar 27, 2025
Thumbnail for 16 Personality Factor แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16PF คืออะไร

16 Personality Factor แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16PF คืออะไร

ช่วงนี้เห็นว่ามีแบบทดสอบมาให้ทำกันมากมายในเวอร์ชันภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็น Archetype Test, Seasons of Love หรือ MBTI วันนี้ Jobcadu จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ 16 Personality Factor (16PF) ซึ่งเป็นแบบทดสอบบุคลิกภาพที่ได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบและได้รับการยอมรับในทางจิตวิทยา แล้วแบบทดสอบนี้มีที่มาอย่างไร และมีบุคลิกภาพอะไรบ้าง มาดูกัน แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 Personality Factor คืออะไร แบบทดสอบ 16 Personality Factor (16PF) เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดบุคลิกภาพซึ่งพัฒนาโดย Dr. Raymond Cattell นักจิตวิทยาชาวอังกฤษในช่วงปี 1940 จุดประสงค์ของแบบทดสอบนี้คือ การระบุปัจจัยหลัก 16 ประการที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพในแต่ละบุคคล และช่วยให้เข้าใจลักษณะนิสัย ความคิด และพฤติกรรมของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสามารถนำไปใช้ในด้านการพัฒนาตนเอง การแนะแนวอาชีพ และการคัดเลือกบุคลากรได้อีกด้วย บุคลิกภาพ 16 Personality Factor มีอะไรบ้าง แบบทดสอบ 16PF ได้แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 16 ปัจจัยหลัก ซึ่งสามารถแสดงถึงลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคลได้ดังนี้: Warmth (อบอุ่น - เย็นชา) → ระดับของความเป็นมิตรและความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น Reasoning (ชอบใช้เหตุผล - ใช้สัญชาตญาณ) → ระดับของความสามารถในการวิเคราะห์และใช้เหตุผล Emotional Stability (มั่นคงทางอารมณ์ - อ่อนไหวง่าย) → ความสามารถในการควบคุมอารมณ์และความเครียด Dominance (ชอบควบคุม - ยืดหยุ่น) → ระดับของความเป็นผู้นำหรือความกล้าที่จะควบคุมสถานการณ์ Liveliness (กระตือรือร้น - สุขุม) → ระดับของเอเนอร์จี้และการเข้าสังคม Rule-Consciousness (เคร่งครัดกฎระเบียบ - ยืดหยุ่นกับกฎเกณฑ์) → ความเคร่งครัดต่อกฎระเบียบและความถูกต้อง Social Boldness (กล้าแสดงออก - ขี้อาย) → ระดับความมั่นใจและการเข้าสังคม Sensitivity (อ่อนไหว - มีเหตุผล) → ความสามารถในการรับรู้ เข้าใจอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น Vigilance (ระแวดระวัง - ไว้วางใจง่าย) → ระดับของความระมัดระวังต่อสถานการณ์และบุคคลรอบตัว Abstractedness (เพ้อฝัน - อยู่กับความจริง) → ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ Privateness (เป็นส่วนตัว - เปิดเผย) → ระดับของการรักษาความลับและความเป็นส่วนตัว Apprehension (วิตกกังวล - มั่นใจในตนเอง) → ระดับของความมั่นใจและความเครียดที่เกิดขึ้น Openness to Change (ยืดหยุ่น - อนุรักษ์นิยม) → ความเต็มใจในการปรับตัวและยอมรับการเปลี่ยนแปลง Self-Reliance (พึ่งพาตนเอง - พึ่งพาผู้อื่น) → ระดับของพึ่งพาตนเองและการทำสิ่งต่าง Perfectionism (รักความสมบูรณ์แบบ - ยืดหยุ่นและง่าย ๆ ) → ระดับของความละเอียดถี่ถ้วนและต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์ Tension (เคร่งเครียด - ผ่อนคลาย) → ระดับของความตึงเครียดและความสามารถในการจัดการกับความเครียด แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 Personality Factor เหมาะกับใคร 16PF เหมาะกับทุกคนที่ต้องการทำความเข้าใจตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น บุคคลทั่วไปที่ต้องการทำความเข้าใจตนเองและพัฒนาตนเอง นักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการค้นหาแนวทางในการศึกษาและอาชีพที่เหมาะสม ผู้ที่กำลังมองหางาน หรือต้องการพัฒนาตนเองในสายอาชีพ ผู้ที่ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ที่ต้องการใช้ในการคัดเลือกบุคลากร แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 Personality Factor ทำที่ไหน สามารถทำได้ที่นี่ แบบทดสอบบุคลิกภาพ 16 Personality Factor- ภาษาอังกฤษ 16PF ต่างจาก MBTI อย่างไร 1. พื้นฐานทางทฤษฎี 16PF: พัฒนาขึ้นโดย Raymond Cattell อ้างอิงจาก ทฤษฎีปัจจัยพื้นฐานทางบุคลิกภาพ (Factor Analysis) โดยอาศัยการวิจัยทางสถิติเพื่อระบุ 16 ปัจจัยบุคลิกภาพหลัก MBTI: พัฒนาจากแนวคิดของ Carl Jung และขยายโดย Isabel Briggs Myers และ Katharine Cook Briggs โดยอาศัยแนวคิดเรื่อง ประเภทบุคลิกภาพ (Psychological Types) ซึ่งแบ่งคนออกเป็น 16 แบบ ตาม 4 มิติหลัก 2. โครงสร้างของแบบทดสอบ 16PF: มี 16 ปัจจัยหลัก และมักใช้ในด้านจิตวิทยาองค์กร การจ้างงาน และการพัฒนาตนเอง MBTI: มี 4 มิติ และ 16 ประเภทบุคลิกภาพ ได้แก่ Extroversion (E) – Introversion (I) Sensing (S) – Intuition (N) Thinking (T) – Feeling (F) Judging (J) – Perceiving (P) 3. วิธีการวัดและผลลัพธ์ 16PF: ใช้วิธีวัดบุคลิกภาพแบบ ต่อเนื่อง (Continuum-based) ผลลัพธ์ไม่ได้แบ่งเป็นประเภท แต่เป็นระดับของแต่ละปัจจัย MBTI: ใช้วิธีแบ่งประเภทบุคลิกภาพแบบ ขั้วตรงข้าม (Dichotomy-based) ซึ่งกำหนดบุคลิกภาพเป็น 16 แบบชัดเจน 4. การใช้งาน 16PF: มักใช้ในการจ้างงาน การบริหารเเละประเมินศักยภาพของบุคคล การพัฒนาตัวเองเเละภาวะผู้นำ และการวิจัยทางจิตวิทยา MBTI: ใช้ในการพัฒนาตัวเอง การทำความเข้าใจนิสัยของคนในทีม และการแนะแนวอาชีพ แบบทดสอบ 16 Personality Factor (16PF) เป็นแบบทดสอบที่ช่วยให้เข้าใจบุคลิกภาพของตัวเองในเชิงลึกผ่าน 16 ปัจจัยหลัก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง การเลือกอาชีพ และการบริหารบุคลากรได้ หากคุณสนใจที่จะทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้น ลองทำแบบทดสอบนี้ดู แล้วมาดูกันว่าคุณมีบุคลิกภาพแบบไหน!

Mar 4, 2025
Thumbnail for Enneagram Test แบบทดสอบบุคลิกของคนทั้ง 9 แบบ

Enneagram Test แบบทดสอบบุคลิกของคนทั้ง 9 แบบ

แบบทดสอบนพลักษณ์ Enneagram Test คือ Enneagram Test หรือแบบทดสอบนพลักษณ์ เป็นเครื่องมือทางจิตวิทยาที่ใช้วิเคราะห์บุคลิกภาพของคน โดยแบ่งออกเป็น 9 ประเภท ตามลักษณะนิสัยและแรงจูงใจหลักของแต่ละบุคคล แบบทดสอบนี้มีรากฐานมาจากแนวคิดโบราณและได้รับการพัฒนาโดยนักจิตวิทยาและนักวิชาการหลายคน โดยเฉพาะ Oscar Ichazo และ Claudio Naranjo ปัจจุบันถูกนำมาใช้ในหลากหลายวงการ ทั้งการพัฒนาตนเอง การทำงาน และการบริหารองค์กร Enneagram Test แบ่งบุคลิกของคนออกเป็นกี่ประเภท Enneagram Test แบ่งบุคลิกภาพของคนออกเป็น 9 ประเภทหลัก โดยแต่ละรูปแบบมีลักษณะเฉพาะ แรงจูงใจ และรูปแบบการคิดที่แตกต่างกันไป 1. ผู้ชอบความสมบูรณ์แบบ (The Perfectionist) ลักษณะเด่น: มีระเบียบวินัยสูง และมุ่งมั่นทำสิ่งต่าง ๆ ให้สมบูรณ์แบบ มีความละเอียดรอบคอบ มีหลักการ ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: นักบัญชี  ผู้ตรวจสอบบัญชี ครู นักวิเคราะห์ข้อมูล นักกฎหมาย 2. ผู้ให้ (The Giver) ลักษณะเด่น: มีความเห็นอกเห็นใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เข้าใจความรู้สึกผู้อื่นได้ดี ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: ครู นักจิตวิทยา แพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ พยาบาล 3. ผู้ไขว่คว้าในความสำเร็จ (The Performer) ลักษณะเด่น: มีเป้าหมายชัดเจน มุ่งมั่น ทะเยอทะยาน ชอบการแข่งขัน และต้องการประสบความสำเร็จ ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: นักธุรกิจ ผู้บริหาร นักการตลาด นักขาย 4. ศิลปิน (The Romantics) ลักษณะเด่น: มีความคิดสร้างสรรค์ อ่อนไหว เข้าใจอารมณ์ลึกซึ้ง ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: ศิลปิน นักออกแบบ นักเขียน  นักแต่งเพลง นักแสดง 5. นักคิด นักสำรวจ (The Observer) ลักษณะเด่น: ชอบวิเคราะห์และค้นคว้า รักการเรียนรู้ ชอบความเป็นส่วนตัว ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย โปรแกรมเมอร์ 6. ผู้จงรักภักดี (The Guardian) ลักษณะเด่น: มีความรับผิดชอบสูง ซื่อสัตย์ และสนับสนุนคนรอบตัวอยู่เสมอ ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: ตำรวจ ทนายความ เจ้าหน้าที่รัฐ นักบริหารความเสี่ยง ผู้จัดการโครงการ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย 7. นักผจญภัย (The Optimist) ลักษณะเด่น: มองโลกในแง่ดี สนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ และรักอิสระ ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: นักการตลาด ผู้จัดงานอีเวนต์ พิธีกร นักเดินทาง ยูทูบเบอร์ ไกด์ท่องเที่ยว อินฟลูเอนเซอร์ 8. ผู้นำ (The Leader) ลักษณะเด่น: เด็ดขาด ชอบความท้าทาย กล้าตัดสินใจ และมีความเป็นผู้นำสูง ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม: ผู้บริหาร ผู้ประกอบการ ทนายความ นักการเมือง 9. ผู้รักสันติสุข (The Peacemaker) ลักษณะเด่น: รักความสงบ ใจเย็น ประนีประนอม เข้ากับผู้อื่นได้ดี ตัวอย่างอาชีพที่เหมาะสม:นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ผู้ให้คำปรึกษา แบบทดสอบ Enneagram Test ทำที่ไหน หากต้องการทำแบบทดสอบ Enneagram Test สามารถเข้าไปทำได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้: Enneagram Institute (ภาษาอังกฤษ) แบบทดสอบ Enneagram ภาษาไทย (ภาษาไทย) วิธีการนำ Enneagram Test มาใช้ในชีวิตประจำวัน 1.ใช้เป็นเครื่องมือในการทำความเข้าใจตนเอง รู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง เข้าใจแรงจูงใจและพฤติกรรมของตนเอง 2.พัฒนาความสัมพันธ์กับผู้อื่น เข้าใจมุมมองและความต้องการของคนแต่ละประเภท ปรับตัวในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 3.การพัฒนาตนเอง รู้จุดที่ควรปรับปรุง วางแผนพัฒนาตนเองได้ตรงจุด อย่างไรก็ตาม ควรตระหนักว่าแบบทดสอบนี้เป็นเพียงเครื่องมือช่วยในการทำความเข้าใจตนเองเบื้องต้น ไม่ควรยึดติดกับผลการทดสอบมากเกินไป เพราะแต่ละคนมีความซับซ้อนและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เห็นได้ว่าคนเรามีบุคลิกภาพที่หลากหลาย การทำความเข้าใจตนเองและผู้อื่นผ่านแบบทดสอบ Enneagram สามารถช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้คนรอบตัวแล้วมาทดสอบบุคลิกภาพกันว่าได้ไทป์ไหนบ้าง จะได้เข้าใจกันมากขึ้น สำหรับใครที่ชอบบทความเกี่ยวกับการพัฒนาตนเอง หรือแนะแนวอาชีพและอื่น ๆ ติดตามเราได้ที่ Career Portal

Feb 24, 2025
Thumbnail for มารู้จักกับ 4 บุคลิกในแบบทดสอบ DISC Personality Test กัน

มารู้จักกับ 4 บุคลิกในแบบทดสอบ DISC Personality Test กัน

DISC Personality Test คืออะไร? DISC Personality Test เป็นแบบทดสอบวิเคราะห์บุคลิกภาพที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยมีต้นกำเนิดจากงานวิจัยของ Dr. William Moulton Marston นักจิตวิทยาชาวอเมริกันที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ในช่วงปี 1920 โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่ D (Dominance), I (Influence), S (Steadiness) และ C (Conscientiousness) DISC ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเนื่องจากเป็นแบบทดสอบที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในการพัฒนาตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือการเลือกอาชีพที่เหมาะสม ประเภทของบุคลิกภาพทั้ง 4 ใน DISC แบบทดสอบ DISC แบ่งบุคลิกภาพออกเป็น 4 ประเภทหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย D (Dominance): ผู้มีความเป็นผู้นำ มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน กล้าตัดสินใจ ชอบความท้าทาย และมุ่งเน้นผลลัพธ์ จุดเเข็ง: เป็นผู้นำที่สามารถผลักดันให้งานสำเร็จลุล่วงได้ตามเป้าหมาย I (Influence): ผู้มีอิทธิพลต่อผู้อื่น เป็นคนที่มีเสน่ห์ มองโลกในแง่ดี ชอบเข้าสังคม มีความคิดสร้างสรรค์ ชอบพูดคุย และสามารถโน้มน้าวใจผู้อื่นได้ดี จุดเเข็ง: สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น มีมนุษยสัมพันธ์ดี และทำงานเป็นทีมได้ดี S (Steadiness): ผู้ที่มั่นคงและมีความอดทน บุคคลที่มีบุคลิกแบบ S มักเป็นคนที่มีความใจเย็น ซื่อสัตย์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระยะยาว จุดเเข็ง: เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นที่ปรึกษาได้ และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น C (Conscientiousness): ผู้ที่มีความละเอียดและรอบคอบ คนที่มีบุคลิกแบบ C มักเป็นคนที่มีความรอบคอบ มีตรรกะ และให้ความสำคัญกับรายละเอียด พวกเขาชอบการวิเคราะห์และการทำงานที่มีโครงสร้างชัดเจน จุดเเข็ง: ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ทำไม DISC Personality Test ถึงสำคัญ? ช่วยให้เข้าใจตนเอง: ทำให้รู้จักจุดแข็ง จุดอ่อน และความต้องการของตนเอง เพื่อนำไปพัฒนาตนเองได้อย่างตรงจุด ช่วยให้เข้าใจผู้อื่น: ทำให้เข้าใจพฤติกรรมและแรงจูงใจของผู้อื่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการเลือกอาชีพ: ช่วยให้ค้นพบอาชีพที่เหมาะสมกับบุคลิกภาพและความสนใจของตนเอง ช่วยในการพัฒนาทีม: ช่วยให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกในทีม เพื่อสร้างทีมที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ แบบทดสอบ DISC ออนไลน์ฟรี – ทดสอบตัวเองกันเลย! หากคุณต้องการลองทำแบบทดสอบ DISC สามารถเข้าร่วมการทดสอบออนไลน์ฟรีได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ที่นี่: DISC Personality Test – ภาษาไทย DISC Personality Test – ภาษาอังกฤษ DISC กับอาชีพ – แบบทดสอบช่วยให้คุณเลือกงานที่ใช่ได้อย่างไร? แบบทดสอบ DISC สามารถช่วยให้คุณค้นหาอาชีพที่เหมาะสมกับบุคลิกของคุณได้ ตัวอย่างเช่น D (Dominance): เหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความเป็นผู้นำ การตัดสินใจ และการแก้ไขปัญหา เช่น ผู้บริหาร ผู้จัดการ นักธุรกิจ หรือทนายความ I (Influence): เหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการสร้างความสัมพันธ์ เช่น นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ นักขาย พิธีกร หรือ นักเเสดง S (Steadiness): เหมาะกับอาชีพที่ต้องการความอดทนและความใส่ใจ การบริการ และการช่วยเหลือผู้อื่น เช่น งานบริการลูกค้า พยาบาล ครู อาจารย์ HR หรือนักสังคมสงเคราะห์ C (Conscientiousness): เหมาะกับอาชีพที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ การวิเคราะห์ และการวางแผน เช่น นักบัญชี วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย หรือโปรเเกรมเมอร์ อย่างไรก็ตาม การเลือกอาชีพไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องพิจารณาถึงความสนใจ ทักษะ และประสบการณ์ของแต่ละบุคคลด้วย และเมื่อได้อาชีพที่อยากสมัครแล้ว แต่ไม่รู้จะสมัครงานที่ไหน สามารถเข้าไปสมัครงานหรือฝากเรซูเม่ได้ที่ Job Portal

Feb 19, 2025
Thumbnail for แบบทดสอบ กุญแจกลางใจ : Blooming key ไทป์ดอกไม้ยอดฮิตที่กำลังเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ในช่วงนี้

แบบทดสอบ กุญแจกลางใจ : Blooming key ไทป์ดอกไม้ยอดฮิตที่กำลังเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ในช่วงนี้

ในช่วงนี้ มีเทรนด์แบบทดสอบบุคลิกภาพที่กำลังไวรัลมากๆในโลกออนไลน์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือ แบบทดสอบ ‘ กุญแจกลางใจ: Blooming Key ’ ของครีเอเตอร์ “Atom Pakon” ซึ่งเป็นแบบทดสอบวัดบุคลิกภาพของตัวเรา บอกว่าเรามีจุดเด่นและจุดอ่อนอะไรผ่านไทป์ดอกไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งมีกลอนน่ารักๆฮีลใจ และบอกว่าเราเหมาะกับคนที่เป็นดอกไม้ไทป์ไหนบ้าง ซึ่งวันนี้ Jobcadu ได้รวมเฉลยไทป์ดอกไม้ทั้งหมด 16 ชนิดด้วยกัน มาไว้ที่นี่หมดแล้ว มาดูไปพร้อมกันได้เลย คำตอบของ กุญแจกลางใจ : Blooming key มีแบบไหนบ้าง? 1.กุญแจเดซี่ : เอาใจใส่ ภักดี และ เป็นผู้คอยสนับสนุน 2.กุญแจทิวลิป : เปี่ยมไปด้วยพลัง เป็นธรรมชาติ และ เข้าสังคมเก่ง 3.กุญแจทานตะวัน : มีความทะเยอทะยาน มียุทธวิธี และ เป็นคนมั่นใจในตนเอง 4.กุญแจกุหลาบ : เข้าอกเข้าใจผู้อื่น เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ และ มีความเสียสละ 5,กุญแจป๊อปปี้ : มีความกระตือรือร้น เป็นผู้สร้างสรรค์ และ มีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น 6.กุญแจกล้วยไม้ : เป็นนักวิเคราะห์ ช่างสงสัย และ ช่างคิดค้น 7.กุญแจต้นโอ๊ค : มีความเป็นระเบียบ สามารถพึ่งพาได้ และ เป็นนักลงมือ 8.กุญแจไลแลค : เป็นคนลึกซึ้ง มีความเข้าอกเข้าใจ และ มีวิสัยทัศน์ 9.กุญแจลิลลี่ : ใส่ใจผู้อื่น ภักดี และ เข้ากับคนง่าย 10.กุญแจเยอบีร่า : มีความกระฉับกระเฉง รักการผจญภัย และ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ 11.กุญแจไอริส : เป็นคนรอบคอบ เป็นอิสระ และ วิสัยทัศน์กว้างไกล 12.กุญแจฟอร์เก็ตมีน็อต : มีความเข้าอกเข้าใจ เป็นนักใฝ่ฝัน และ นักสร้างสรรค์ 13.กุญแจแดนดิไลแอน : ชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ช่างสงสัย และ ปรับตัวเก่ง 14.กุญแจเบญจมาศ : เป็นคนซื่อสัตย์ มีความมุ่งมั่น และ เป็นระเบียบ 15.กุญแจกระบองเพชร : เป็นอิสระ แกร่งกล้า และ เป็นคนปรับตัวเก่ง 16.กุญแจบัตเตอร์คัพ : เป็นนักสร้างสรรค์ สบายๆ และ เป็นอิสระ เป็นไงอย่างไรกันบ้าง กับแบบทดสอบกุญแจกลางใจ ใครได้อันไหนกันบ้าง หากคนไหนที่สนใจอยากจะทดสอบแบบทดสอบตนเองในแบบอื่น ๆ ก็มีอีกมากมาย หรือหากสนใจบทความเกี่ยวกับพัฒนาตนเอง หรือเกี่ยวกับกาารทำงานก็สามารถเข้ามาที่ Career Portal ได้เลย เพราะมีบทความที่น่าสนใจมากมายให้ทุกคนได้เลือกอ่านอีกด้วย! อ้างอิง Atompakon PPTVHD36

Feb 18, 2025
Thumbnail for แบบทดสอบ My Type: Seasons of Love ความรักของคุณเป็นแบบไหน อ้างอิงสไตล์จากไทป์ของน้องหมาน้องแมว

แบบทดสอบ My Type: Seasons of Love ความรักของคุณเป็นแบบไหน อ้างอิงสไตล์จากไทป์ของน้องหมาน้องแมว

ทาสหมาทาสแมวต้องไม่พลาด กับการทำแบบทดสอบเพื่อค้นหาตัวเอง ซึ่งมีออกมามากมาย วันนี้ Jobcadu จึงพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ My Type: Seasons of Love แบบทดสอบบุคลิกที่มีหมาแมวพันธุ์ต่างๆ เป็น inspirtation มาดูกันเป็นยังไงบ้าง My Type: Seasons of Love คือแบบทดสอบอะไร? “Your Type Seasons of Love” เป็นแบบทดสอบที่ทำมาเพื่อบอกสไตล์ความรักของคุณ โดยเปรียบเทียบกับลักษณะนิสัยของ “สุนัข” และ “แมว” สายพันธุ์ต่างๆมากมาย ผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองในมุมมองใหม่ และอาจค้นพบ “คู่หู” ที่ใช่สำหรับคุณ คำตอบของ My Type: Seasons of Love มีแบบไหนบ้าง? 1.สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ไทป์สุนัขไซบีเรียน มีนิสัยกระตือรือร้นมาก ฉลาด คล่องแคล่ว เป็นอิสระ ซุกซน และขี้เล่น พวกมันมักจะเป็นมิตรที่ดีต่อสุนัขและสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่นๆ เข้ากับคนแปลกหน้าได้ อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: Sales, ผู้ฝึกสุนัขหรือผู้ฝึกสัตว์, ไกด์ท่องเที่ยว, ครู, Marketing, Content Creator, นักธุรกิจ, พิธีกร, นักแสดง และ Software Developer หรือ อาชีพที่เกี่ยวกับไอที เป็นต้น 2.สุนัขตำรวจ ไทป์สุนัขตำรวจ มีนิสัยซื่อสัตย์ จงรักภักดี มีความกล้าหาญและกระตือรือร้น แข็งแรงว่องไว พลังเยอะ ชอบออกกำลังกายและทำกิจกรรม อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: ตำรวจ, ทหาร, วิศวกร, โค้ชกีฬา, นักสำรวจ, นักกีฬา, เทรนเนอร์ฟิตเนส, นักดับเพลิง, นักกู้ภัย และ พยาบาล เป็นต้น 3.สุนัขพันธุ์โกลเด้น ไทป์สุนัขโกลเด้น มีนิสัยอารมณ์เย็น ฉลาด และมีเสน่ห์ และขี้เล่น สุภาพกับเด็กๆ และเข้ากันได้ดีกับสัตว์ตัวอื่น และคนแปลกหน้า สุนัขพันธุ์นี้ชอบที่จะทำให้เราชื่นชอบ จึงเป็นสาเหตุให้เขาตอบสนองต่อการฝึกได้ดีและเป็นที่นิยมในการเป็นสุนัขที่ให้ความช่วยเหลือ อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: ครู, นักจิตวิทยา, ผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้า (Customer Service Manager), พิธีกร, PR (Public Relations), นักแสดง/นักร้อง/ศิลปิน และ นักให้คำปรึกษา (Assistance) เป็นต้น 4.แมวดำ ไทป์แมวดำ มีนิสัยขี้อ้อน รักสงบ ฉลาด อบอุ่นปลอดภัย เรียนรู้ไว มั่นใจในตัวเอง แต่จะมีความโลกส่วนตัวสูงบ้างในบางมุม อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: นักเขียน/นักประพันธ์, ที่ปรึกษาด้านการเงิน (Financial Assistance), นักบัญชี, นักจิตวิทยา/นักบำบัด, นักวิจัย/นักวิทยาศาสตร์, นักแปลภาษา (Translator), นักออกแบบ (Designer), สัตวแพทย์, โปรแกรมเมอร์ และ นักให้คำปรึกษา (Assistance) เป็นต้น 5.แมวสามสี ไทป์แมวสามสี มีนิสัยค่อนข้างดื้อและดุ รักอิสระ ชอบส่งเสียงร้อง ค่อนข้างจะขี้รำคาญและร้องบ่นแบบไม่มีสาเหตุ มีมุมโปรดที่ชอบนอนเงียบ ๆ ลำพังคนเดียว ส่วนใหญ่เป็นตัวเมีย อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: นักเขียน, นักแสดง/นักพูด, นักแปล(Translator), ผู้ประกาศข่าว, นักออกแบบแฟชั่น(Fashion Designer), ยูทูบเบอร์/บล็อกเกอร์, นักธุรกิจ/เจ้าของธุรกิจส่วนตัว, Creative, นักวิจัย, สัตวแพทย์ 6.แมวส้ม ไทป์แมวส้ม มีนิสัยรักอิสระ มั่นใจในตนเอง อบอุ่น ออกจะเป็นมิตรยิ่งกว่าแมวสีอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นตัวผู้ อาชีพที่เหมาะกับไทป์นี้: ผู้ประกาศข่าว, Project Manager, นักให้คำปรึกษา(Assistance), นักวิจัย, Marketing Director และ ที่ปรึกษา(Consultant) เป็นต้น ถ้าสนใจแบบทดสอบอื่นๆ หางานที่ใช่ หรือคอนเทนต์ที่เกี่ยวอาชีพและการพัฒนาตัวเอง สามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ Career Portal

Feb 17, 2025