การเลือกเส้นทางอาชีพที่เหมาะสมเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่สำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ เพื่อความพึงพอใจทั้งในด้านชีวิตส่วนตัวและด้านอาชีพ บทความนี้จะช่วยให้เราได้สะท้อนตัวตนถึงความชอบ จุดแข็ง และเป้าหมาย เพื่อให้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจในชีวิต ที่สอดคล้องกับความฝันและความต้องการของเรา
1.ค้นหาว่าสิ่งที่เราชอบและไม่ชอบคืออะไร
ลองตั้งคำถามเพื่อหาสิ่งที่ตัวเองชอบ เช่น เราชอบทำงานที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข คำพูด หรือกราฟิกหรือไม่? ชอบทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีระเบียบ หรือทำงานในที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพบปะพูดคุยกับผู้คนมากกว่า? การเลือกงานที่ตรงกับความชอบของเราเป็นสิ่งสำคัญ ควรหลีกเลี่ยงงานที่มีเนื้องานที่เราไม่ชอบทำเเม้จะได้เงินเดือนสูง เพราะถ้าเราาไม่มีความสุขหรือความพึงพอใจในงานนั้นๆ เราก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ ในขณะเดียวกัน งานที่มีรายได้น้อยอาจนำมาซึ่งความสุข หากตรงกับความสนใจและค่านิยมของเรา
ตัวอย่าง: หากไม่ชอบทำงานที่เกี่ยวกับตัวเลข ควรหลีกเลี่ยงงานด้านบัญชี และลองสำรวจงานในด้านการตลาดหรือการออกแบบที่เน้นความคิดสร้างสรรค์แทน
2.ทำความเข้าใจกับบุคลิกของตัวเอง
ให้สำรวจว่าตัวเองเป็นคนที่เป็น introvert หรือ extrovert? ชอบวิเคราะห์หรือชอบความสร้างสรรค์? การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพเช่น MBTI หรือ CliftonStrengths จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มบุคคลิกภาพที่เข้ากับเรา เช่น หากเราเป็น extrovert ที่ชอบการติดต่อสื่อสารกับคนอื่น อาชีพในด้านการขายอาจเหมาะกับเรา การเลือกงานให้ตรงกับบุคลิกจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จและความพึงพอใจในงาน
ตัวอย่าง: หากเราเป็น introvert ที่ชอบทำงานคนเดียว อาจเหมาะกับตำแหน่งนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือนักวิจัย ในขณะที่ extrovert อาจจะเก่งในด้านการประชาสัมพันธ์หรือการวางแผนกิจกรรม
3.ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวเอง
เราเก่งอะไร ลองมองย้อนกลับไปยังความสำเร็จที่ผ่านมา รับฟังคำติชมจากผู้อื่น และดูว่าเราประสบความสำเร็จในด้านใด ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้นำ ความสามารถในการจัดการ หรือความสามารถในการทำงานภายใต้ความกดดัน งานที่ใช้จุดแข็งเหล่านี้จะช่วยให้เราโดดเด่นและประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่าง: หากคุณได้รับคำชมเรื่องความสามารถในการจัดการ คุณอาจจะเหมาะกับตำแหน่งผู้จัดการโครงการที่ต้องการความละเอียดรอบคอบ
4.กำหนดเป้าหมายเรื่องเงินเดือน
การได้รับรางวัลทางการเงินนั้นสำคัญ แต่ต้องพิจารณาถึงเป้าหมายทางการเงินระยะสั้นและระยะยาวควบคู่ไปกับความสำคัญในด้านอื่นๆของชีวิต การทำวิจัยในเส้นทางอาชีพที่ตรงกับความคาดหวังด้านรายได้และโอกาสในการเติบโตในอนาคตจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น หากบางอาชีพหรืออุตสาหกรรมไม่ตรงกับความต้องการในเรื่องเงินเดือน เราอาจต้องลองพิจารณาหาตัวเลือกอื่นๆ
ตัวอย่าง: หากตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้สูงในวงการเทคโนโลยี เราอาจต้องพิจารณาอาชีพด้านนักวิทยาศาสตร์เชิงข้อมูล หรือ วิศวกรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่ได้รับค่าตอบแทนสูง
5.ประเมินข้อแลกเปลี่ยนที่เเลกกับการเสียสละ
งานที่มีเงินเดือนสูงมักมีต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เช่น เวลาทำงานที่ยาวนาน เกิดความเครียดสูง หรือการเสียสมดุลในชีวิตจากการทำงาน เราต้องตัดสินใจว่าพร้อมที่จะเสียสละอะไรเพื่อแลกกับเงินเดือนที่สูง ในบางกรณี อาชีพบางประเภทอาจจะมีการทำงานในเวลาสั้นลงแต่สมดุลชีวิตดีขึ้น
ตัวอย่าง: งานในด้านการธนาคารเพื่อการลงทุนอาจมีเงินเดือนสูงแต่ต้องทำงานมากถึง 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ขณะที่งานในด้านการศึกษาอาจให้สมดุลชีวิตการทำงานที่ดีกว่า
6.คิดถึงการเป็นผู้ประกอบการ
เราเคยคิดที่จะเป็นผู้ประกอบการหรือไม่? หากคำตอบคือใช่ ควรเปรียบเทียบความมั่นคงจากเงินเดือนกับความท้าทายในการดำเนินธุรกิจของตัวเอง การเป็นผู้ประกอบการสามารถมอบอิสระและความพึงพอใจ แต่ก็มีความเสี่ยงและความไม่แน่นอน การเปรียบเทียบทางเลือกในการทำงานกับเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการจะช่วยให้เห็นความชัดเจนในเป้าหมายระยะยาว
ตัวอย่าง: หากต้องการความเป็นอิสระและมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่ง การเริ่มต้นธุรกิจในด้านการตลาดดิจิทัลอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการทำงานในตำแหน่งการตลาดในบริษัทใหญ่
7.กำหนดเป้าหมายของตัวเอง
เราอยากบรรลุอะไรในเส้นทางอาชีพ? การตั้งเป้าหมายแบบ SMART (Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-based) ช่วยให้การหางานของเรามีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้น เเนะนำให้ตั้งเป้าหมายเล็กๆในแต่ละวันเพื่อปรับการกระทำของเราให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาว
ตัวอย่าง: เป้าหมายอย่าง "การเป็นผู้นำทีมภายในสามปี" จะช่วยให้เรามีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้
8.ค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรหรือตำแหน่งงานที่อยากทำ
การค้นคว้าาตำแหน่งงาน บริษัท และอุตสาหกรรมที่เราสนใจเป็นสิ่งสำคัญ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติในการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และโอกาสในการเติบโตจากแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น LinkedIn, Glassdoor และเว็บไซต์ของบริษัท การใช้เวลาศึกษาอย่างละเอียดจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
ตัวอย่าง: ใช้ LinkedIn เพื่อเชื่อมต่อกับบุคลากรมืออาชีพในตำแหน่งที่สนใจและถามถึงเส้นทางอาชีพและอุปสรรคที่พวกเขาเจอ
9.ตัดสินใจและเดินหน้าต่อไป
ถึงแม้ว่าจะทำการค้นคว้าอย่างละเอียดแล้ว ความไม่แน่นอนก็ยังคงมีอยู่ หากยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับทางอาชีพ ลองตัดสินใจอย่างดีที่สุดและลองเริ่มต้นทำงานในสายงานนั้นๆ ชีวิตคือการเดินทาง และประสบการณ์ทุกขั้นตอนจะช่วยให้เราเติบโต การทดลองทำงานในทางเลือกต่างๆจะทำให้เราได้เรียนรู้ ปรับเปลี่ยน และตัดสินใจได้ดีขึ้น
ตัวอย่าง: หากยังไม่แน่ใจระหว่างการทำงานในด้านการตลาดหรือการขาย ให้ลองทำงานในตำแหน่งเริ่มต้นในสาขาที่สนใจก่อน เพื่อสำรวจว่ามันเหมาะกับเราหรือไม่
10.ทดลองในโลกความเป็นจริง
ติดต่อผู้คนในตำแหน่งที่เราสนใจ ถามพวกเขาเกี่ยวกับงานประจำวัน ความท้าทาย และสิ่งที่พวกเขาชอบหรือไม่ชอบเกี่ยวกับงานเหล่านั้น การพูดคุยเหล่านี้จะช่วยให้ข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับอาชีพของเรา
ตัวอย่าง: ลองไปดูงานหรือเข้าร่วมงานอีเว้นท์ เพื่อไปสัมผัสประสบการณ์จริงจากคนที่ทำงานในตำแหน่งที่เราสนใจ
การหางานและทางอาชีพที่เหมาะสม เป็นการตัดสินใจที่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับความชอบ จุดแข็ง และเป้าหมายของตัวเอง และพร้อมที่จะเรียนรู้และปรับตัว จะเป็นตัวช่วยให้สามารถเดินทางไปสู่เส้นทางอาชีพที่เติมเต็มความฝันของตนเองได้อย่างมั่นใจ
สามารถเข้ามาศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลหรือวิธีการในการพัฒนาตัวเองเพิ่มเติม ได้ที่ Jobcadu แพลตฟอร์มของเราจะช่วยคุณสำรวจตัวเลือกอาชีพที่เหมาะสม เชื่อมโยงคุณกับข้อมูลในอุตสาหกรรมที่คุณสนใจ และทำให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปได้อย่างมั่นใจในทุกๆก้าวที่คุณเดิน และจะพาคุณไปสู่การหางานที่มีความหมายและเติมเต็มชีวิตของคุณ