วันนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับการเตรียมตัวเพื่อสมัครงานและสัมภาษณ์ในบริษัทบัญชีชื่อดัง
Tip 1 : หาคอนเนคชั่น เพื่อสอบถามข้อมูลที่คุณต้องการ
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน รุ่นพี่ คนรู้จัก หรือกระทั่งทักหาคนที่ทำงานนั้น ๆ ใน LinkedIn แต่คุณควรทำการบ้านมาก่อนซักเล็กน้อย
Tip 2 : แบบทดสอบทางด้านตัวเลขและความเชี่ยวชาญ (Numerical Test และ Competencies Test)
มีบริษัทใหญ่ ๆ จำนวนมากที่จะให้ผู้สมัครทุกคนทำเเบบทดสอบทางด้านตัวเลขและความเชี่ยวชาญ มันไม่ได้ยากจนทำไม่ได้ แต่สิ่งที่ยากคือ 'เวลาที่จำกัด และกระชั้นชิด' คุณสามารถซ้อมทำแบบทดสอบเหล่านี้ได้ทางอินเทอร์เน็ต ร้านหนังสือ ใช้ ChatGPT ซึ่งคุณจะรู้ได้อย่างไรว่ามันมีด่านนี้ > ต้องถามคนที่เคยสมัคร หรือถาม Recruiter
Tip 3 : เอาความสามารถและประสบการณ์ของคุณออกมาวางบนโต๊ะ
คุณอาจหยิบความสามารถ ประสบการณ์ออกมาวางเป็นข้อ ๆ ถ้าอยากให้ละเอียด คุณสามารถเขียนเป็นลิสต์ใน Google Sheet/Excel เขียนแต่ละช่องว่าคุณเคยทำอะไร และมันใช้ทักษะอะไร หรือตัวคุณเองมีทักษะอะไร แล้วเรียบเรียงเป็นคำพูด หรือเรื่องราวผ่าน STAR Method เพื่อทำให้คุณสามารถเล่าได้สอดคล้อง เข้าใจว่าจะสื่ออะไร โดยข้อนี้สามารถนำไปใช้ในเรซูเม่โดยเลือกข้อที่สำคัญและเกี่ยวข้องที่สุด หรือการเตรียมสำหรับการสัมภาษณ์ ซึ่งจะทำให้คุณหยิบยกประเด็นออกมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่ตะกุกตะกัก
Tip 4 : สมัครให้เร็วที่สุด
ตำแหน่งที่เปิดในบริษัทใหญ่มักจะมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก อัตราแข่งขันสูง ความสามารถในเรซูเม่อาจไม่เพียงพอ อาจต้องมีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้อง! ทำความรู้จักช่องทางการสมัคร เว็บไซต์บริษัท เว็บไซต์หางาน walk-in interview หรืองานอีเว้นต์รูปแบบอื่น ๆ เพื่อนำเสนอตัวคุณแก่ Recruiter ให้ไวที่สุด เพราะโดยทั่วไปแล้วเมื่อพวกเขาเจอเรซูเม่ที่ถูกใจ ผ่านเกณฑ์การคัดกรองจำนวนหนึ่ง พวกเขาจะแยกเรซูเม่ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ หรือสมัครช้าไปอีกกองหนึ่ง
Tip 5 : การทำเรซูเม่ และการสมัครให้มากที่สุด
ทำให้ recruiter เห็นเราและประทับใจเรซูเม่ของเราที่สุดเท่าที่จะเป็นไป ความประทับใจอาจไม่ได้หมายถึงเรซูเม่ที่มีสีสัน คุณควรเลือกเทมเพลตที่มีอ่านง่าย ยิ่งในสายงานบัญชีคุณควรคำนึงถึงความมืออาชีพ ความเป็นระเบียบ ความถูกต้องของเรซูเม่ (สายงานบัญชียิ่งห้ามสะกดผิด?) คุณอาจต้องสมัครงานจำนวนมาก หรือปรับปรุงเรซูเม่ ให้คนที่น่าเชื่อถือช่วยดูเรซูเม่ของเรา
Tip 6 : การถูกปฏิเสธ
งานที่ดี บริษัทที่ดังมักมีการแข่งขันที่สูง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ 95% ของผู้สมัครจะถูกปฏิเสธ อย่าเก็บไปท้อแท้ แต่ให้มองถึงสิ่งที่ควบคุมได้ เช่น คุณจะทำให้การสมัครและการสัมภาษณ์ครั้งต่อไปดีขึ้นได้อย่างไร หลายครั้งคนที่ได้งานในบริษัทยักษ์ใหญ่ บริษัท BIG 4 หรือบริษัท Management Consulting Firms พวกเขาได้งานหลังจากถูกปฏิเสธไปแล้ว 2-3 รอบ ไม่ใช่เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เก่งเสมอไป แต่อาจเพราะมีแคนดิเดตที่เตรียมตัวมาดีกว่า แสดงความสามารถได้เข้าตามากกว่า ทำผิดพลาดน้อยกว่า
คุณยังสามารถถามรีครูทเตอร์ได้ด้วยว่า ขั้นตอนไหนที่คุณทำพลาดไป หากพวกเขาว่างรับโทรศัพท์หรือตอบอีเมลนะ
Tip 7 : ถ้าหากมีสัมภาษณ์แบบกลุ่ม / Assessment Center (คล้าย ๆ กับรายการแข่งขันเพื่อสังเกตการทำงานเป็นทีม)
คุณอาจต้องทำการบ้านเพิ่มอีก (ฟังดูเหนื่อยใช่ไหมล่ะ) แต่ใจความหลักคือคุณต้องกล้าที่จะแสดงความคิดเห็น เสนอไอเดีย พูดว่าคุณชอบไอเดียไหนของเพื่อนในทีมอย่างมีเหตุผล เป็นทั้งผู้นำและผู้ตาม ฝึกการพูดกับตัวเองหน้ากระจก มั่นใจ กล้าสบตาและแสดงความ Proactive ในการบรรลุโจทย์ที่ได้รับ ไม่ต้องสนใจว่าเราเป็นไอเดียที่ดีที่สุดเสมอไป พร้อมทั้งแสดงความเป็น Team Player สามารถเข้ากับเพื่อนร่วมงานใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
______________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
สำหรับคำถามสัมภาษณ์และการเตรียมตัว
ต้องเรียนก่อนว่าแต่ละการสัมภาษณ์ จำนวนคนสัมภาษณ์ จำนวนรอบการสัมภาษณ์จะจะแตกต่างกันไปตามนโยบายและแผนงานของบริษัท แต่ Recruiter โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ ๆ มักจะมีชุดคำถามกลาง หรือ Standard Questions เพื่อใช้คัดกรองแคนดิเดตเตรียมไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว เมื่อมีผู้เข้าสัมภาษณ์จำนวนมาก ทำให้มีการจำคำถามออกมาแชร์กัน
การทำการบ้านก่อนการสัมภาษณ์ไม่ใช่การจำทุกคำถาม ท่องจำทุกคำตอบ แต่เป็นการทำความเข้าใจสิ่งที่ recruiter อยากรู้จัก อยากประเมินเราผ่านชุดคำถามที่น่าจะถูกถาม ขณะเดียวกันเราก็เตรียมตัว คีย์แมสเสจ หรือสิ่งที่อยากจะสื่อสารล่วงหน้า ขยายความให้เห็นภาพ ซึ่งทำให้ recruiter สามารถเห็นภาพของเราในการทำงานได้ชัดเจน คะแนนการสัมภาษณ์ของเราก็จะออกมาดี ตอบคำถามได้ครบถ้วนและป้องกันไม่ให้เราตื่นเต้นหรือทำพลาดเกินไป
คุณไม่มีวันสามารถฝึกฝนทุกคำถาม หรือคาดคะเนคำถามได้ทุกครั้ง ยิ่งหากพวกเขามีการเตรียมคำถามพิเศษในแต่ละปี หรือแต่ละรอบ แต่คุณสามารถโฟกัสคำถามที่น่าจะถูกถามบ่อย ๆ และ recruiter ไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยน ซึ่งหลายครั้งอาจเป็นคำถามแรก ๆ ของการสัมภาษณ์ ถ้าคุณมีการเตรียมตัวที่ดี พูดชัดถ้อยชัดคำ สื่อสารได้ตรงประเด็น คุณจะมีความได้เปรียบเหนือผู้สมัครที่ไม่สามารถสร้างความประทับใจจากคำถามง่าย ๆ หรือทำผิดพลาดร้ายแรงตั้งแต่การแนะนำตัว
คุณอาจซ้อมเป็นช่วง ๆ ผ่านการพูดหน้ากระจกจะทำให้คำตอบเข้าปากมากกว่า สามารถสังเกตบุคลิก สีหน้าของเราเวลาพูด เพราะหลายครั้งการเขียนลงในกระดาษหรือทดไว้ในใจเมื่อพูดออกไปกลับทำให้คุณเองที่เสียความมั่นใจ เสียการควบคุม การมีเพื่อนคู่ซ้อมจะยิ่งทำให้คุณคุ้นชินและทำได้อย่างคล่องแคล่ว
สุดท้ายก่อนที่เราจะเจาะลึกไปที่คำถามที่น่าจะเกิดขึ้น คุณควรรู้เคล็ดลับอย่างนึงในการสร้างภาพจำที่ดีให้แก่ recruiter นั่นคือการแสดงความกระตือรือร้น ความตื่นเต้นที่ได้รับโอกาสพูดคุยกับ recruiter (ผู้สมัครหลายคนอาจไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับ recruiter ด้วยซ้ำ) ดังนั้นการแสดงภาษากายที่เป็นบวก น่าพูดคุย เหมือนการทำความรู้จักกับคน ๆ หนึ่ง การยิ้ม การพยักหน้า การสบตาและการโน้มตัวไปข้างหน้านิดหน่อย พยายามลดภาษากายที่ไม่น่าพูดคุย เช่น ขยับบ่อย ๆ กอดอก มองไปทางอื่น ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะการสื่อสารที่ไม่ได้ออกมาจากคำพูด อาจไม่ได้ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้น แต่คุณจะไม่โดนหักคะแนนแน่นอน
สำหรับคำถามที่เราเตรียมมาให้ในวันนี้ มีอยู่ 10 คำถาม
- Why do you want to work for X company over the other Companies or three Big 4 firms?
- Why did you choose to be an accounting major and get into this field?
- Where would you like to be in your career after your first five years?
- What is your greatest strength?
- Walk me through your resume.
1.Why do you want to work for X company over the other Y Company or three Big 4 firms?
Our take : กล่าวถึงคนที่คุณเคยเจอ การค้นคว้าของคุณว่าการทำงานที่บริษัทนี้ ทำให้คุณรู้สึกอย่างไร พูดถึงการได้ทำงานในสายงาน หรืออุตสาหกรรมที่คุณสมัครงาน สามารถพูดถึงความประทับใจสินค้าและบริการได้เช่นเดียวกัน หากคุณเคยใช้มัน
2.Why did you choose to be an accounting major and get into this field?
“I chose to be an accounting major because I was pretty good at math and really enjoyed the entry level accounting courses. I think I became the most excited about the accounting major when I discovered the career opportunities in public accounting. From the professors I’ve talked with and the research I’ve done online, public accounting offers such a great career and provides a great foundation right out of school. I wanted to set myself up for success and felt that accounting was the best route for me.”
Our take: หลายคนจะตอบเหมือนกันว่าพวกเขาชอบคณิตศาสตร์ ชอบตัวเลข ชอบคำนวณ ชอบบัญชี มันคืออาชีพที่มั่นคง เป็นงานที่มีโอกาสที่ดี โอกาสของคุณที่จะสร้างความแตกต่างคือการตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าทำไมคุณถึงอยากทำงานสายนี้ แล้วค้นลึกลงไปว่าทำไมการตัดสินใจเลือกนี้สมเหตุสมผลผ่านรูปแบบ (ถึงแม้จริง ๆ แล้วคุณจะเลือกจากความรู้สึกก็ตาม)
A : เป็นศาสตร์คุณสนใจ หลังจากไปเจอ xyz
B : เป็นสิ่งที่คุณทำมันได้ดี จาก xyz
C : เป็นอาชีพที่คุณอยากจะเติบโต เพราะ xyz
จากนั้นค่อยเรียบเรียงและสอดแทรกความสนใจ ความชอบของคุณลงไป เช่น
"ผมเลือกเรียนสาขาการบัญชีเพราะผมเก่งคณิตศาสตร์และชอบวิชาบัญชีระดับเริ่มต้นมาก ผมรู้สึกตื่นเต้นกับการเรียนสาขาการบัญชีมากขึ้นเมื่อได้รู้จักโอกาสในอาชีพการบัญชีและออดิท นอกจากนี้ผมได้พูดคุยกับอาจารย์และการค้นคว้าทางอินเทอร์เน็ต ผมได้รู้ว่าอาชีพการบัญชีนั้นเป็นอาชีพที่ยอดเยี่ยมและสามารถเป็นฐานการเรียนรู้ที่ดีเมื่อจบการศึกษา ผมต้องการตั้งต้นอาชีพอย่างมั่นคงและรู้สึกว่าการเรียนสาขาการบัญชีเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผม"
3.Where would you like to be in your career after your first five years?
Our take 1: เป็นไปได้สูงที่คุณอาจจะเริ่มคิดจะย้ายงานตั้งแต่ปีแรก เพื่อค่าตอบแทนและชั่วโมงการทำงานที่คุณต้องการ แต่คุณไม่ควรบอกเด็ดขาด พวกเขาต้องการคนที่จะมาทำงานและอยู่ไปสักพักหนึ่งโดยที่พวกเขาไม่ต้องกลับมาสัมภาษณ์หาคนมีประสบการณ์เร็วจนเกินไปนัก
Our take 2 : พูดถึงความน่าสนใจของอาชีพนี้ สิ่งที่คุณตื่นเต้น เช่น การเติบโต การเป็นเมเนเจอร์ พร้อมทั้งคำนึงถึงสกิลหรือทักษะที่คุณจะได้เรียนรู้ พัฒนาจนเป็นตัวคุณที่เก่งและเชี่ยวชาญกว่าเดิมใน 5 ปีข้างหน้า
พวกเขาคงปัดตกแน่นอนถ้าคุณบอกว่าคุณจะยังเก่งเท่าเดิมกับคุณวันนี้ (ในขณะที่คุณยังอยากได้รับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ) ดังนั้นพยายามพูดถึงตัวคุณใน Best version ที่คุณจินตนาการไว้ อาจพูดถึงบุคคลที่เป็น Role model ที่คุณประสบพบเจอได้เช่นกัน
4.What is your greatest strength?
Our take: ความจริงคือ Recruiter ได้ยินจุดแข็งมาทุกรูปแบบ สิ่งที่คุณควรทำคือหาจุดแข็งที่เป็นตัวคุณจริง ๆ จะดีมากหากมันสอดคล้องกับเนื้องานที่คุณจะต้องทำทุกวัน คุณค่าบริษัท หรือวัฒนธรรมองค์กร แล้วพูดมันออกมาอย่างมั่นใจ ถ้าคุณพูดถึงจุดแข็งด้วยความไม่มั่นใจ น้ำเสียงแผ่วเบา หลังงอ คงยากที่ใครจะเชื่อจุดแข็งนั้นแน่นอน
ระมัดระวัง : การพูดถึงจุดแข็งที่โอเว่อร์ หลอกลวง ไม่สามารถยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือสถานการณ์มารองรับได้
5. Walk me through your resume.
สิ่งที่คุณต้องโฟกัส หากคุณต้องเล่าเกี่ยวกับเรซูเม่
เกรด GPA: ถ้าเกรดคุณดีมาก หรือได้เกียรตินิยมให้พูดถึงมัน – ถ้าคุณได้เกรดวิชาบัญชีสูง ให้พูดถึงมัน
การฝึกงานและงานอื่น ๆ : พูดถึงการฝึกงานหรืองานที่เกี่ยวข้องกับการบัญชี เล่าเรื่องสิ่งที่คุณบรรลุจากบทบาทที่คุณทำ
กิจกรรมนอกเหนือการเรียน Extracurricular: เล่าเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำนอกเหนือห้องเรียน เช่น ชมรม กีฬา ความสนใจ ยิ่งเป็นกิจกรรมที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมักยิ่งดี
การสอบ CPA : คุณสามารถพูดถึงแผนที่จะสอบ CPA หลังจากเรียนจบได้!
ยังมีคำถามที่ผู้สมัครในบริษัทใหญ่ ๆ มักถูกถาม เช่น
6. Tell me about yourself - สามารถดูได้ที่บทความนี้
7. Tell me about a time when you had to be a leader. - เขาต้องดูทักษะการผู้นำ การถือความเป็นเจ้าของในตัวงาน(Ownership)
8. Tell me about a time when you were had to overcome an obstacle to get something done. - เขาต้องการดูทักษะการประเมิน การแก้ปัญหา และการรับมือจากอุปสรรคที่ยากของคุณ คุณอาจตอบจากปัญหาที่แก้ไขได้ จากขั้นตอนการแก้ไขและ ไทม์ไลน์ที่สั้น+ชัดเจน
9. How well do you work do in a team setting? - เขาต้องการดูทักษะการสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
10. Tell me about a time when you had to work under pressure with strict deadlines. - เขาต้องการดูว่าคุณมีความทรหดอดทนต่องานแค่ไหน หรือจะโยนงานทิ้งไปทันทีเมื่อเจออุปสรรค
สรุปการเตรียมตัวสมัครงานหรือการสัมภาษณ์งาน : ยิ่งคุณเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี จะช่วยลดความผิดพลาดและหาจุดที่เราสามารถทำคะแนนได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้งานของ Recruiter ง่ายและมั่นใจว่าคุณสามารถเข้าไปทำงานในตำแหน่งที่กำลังเปิดรับได้อย่างดี คุณยังควรเตรียมคำถามไปถาม recruiter อย่างจริงใจ เพราะการไม่ถามอะไรเลย อาจสื่อเป็นนัยว่าคุณไม่ได้สนใจงานหรือบริษัทนั้นจริง ๆ
สำหรับคำถามเพิ่มเติมคุณสามารถศึกษาต่อได้ที่
https://www.big4bound.com/most-common-big-4-interview-questions/
เครดิตที่มาในการหาข้อมูลเพิ่มเติม
https://www.big4bound.com/deloitte-interview-questions-and-answers/
https://youtu.be/wXBTytq8gwc?si=w09MmT4wFS4SWHAE